นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า กรณีที่ประชุม สนช.มีมติขยายเวลาบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เมื่อพ้นกำหนดเวลา 90 วันหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษานั้นเป็นวิธีการที่ช่วยพรรคการเมืองได้ และช่วยให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมทั้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีเงื่อนเวลาทำงานเท่ากันกับพรรคการเมือง ซึ่งจะช่วยให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม และให้ทุกฝ่ายได้ทำตามกฎกติกาได้อย่างเรียบร้อยและถูกต้อง
ส่วนที่พรรคการเมืองส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อเลื่อนเลือกตั้ง แต่ความจริงแล้วปัญหาอยู่ที่การไม่ปลดล็อคพรรคการเมืองนั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ตนเองขอท้าให้ไปดูว่าเมื่อพรรคการเมืองไปพิจารณาข้อ 8 ในคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 แล้ว เขาจะทำอย่างไร เพราะคำสั่งออกมาบังคับใช้แล้ว ตนเองไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ ตนเองทำได้แค่อธิบายหลักการของตนเอง และเมื่อเวลาผ่านไปขอให้คอยดูสิ่งที่ตนเองทำ จะเห็นว่าตนเองทำด้วยความห่วงใยในการเดินหน้าไปสู่ระบบประชาธิปไตย
"วันนี้ตนยอมรับในสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์ แต่ขอให้ไปดูวันข้างหน้าบันทึกไว้ให้หมด วันนี้สิ่งที่ตนเองทำแล้ว วันข้างหน้าค่อยมาดูสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็แล้วกัน"
นายพรเพชร ยังกล่าวถึงร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ทางคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) มีความเป็นห่วงว่า การแบ่งผู้สมัครออกเป็น 2 ประเภทอาจจะขัดรัฐธรรมนูญว่า เรื่อง ส.ว.ตนเองยังสงสัยและไม่สามารถตอบได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงมีเยอะ ดังนั้นตนเองของรอฟัง กรธ.และคณะกรรมาธิการฯก่อน ซึ่งเรื่องขัดรัฐธรรมนูญนั้นมีคนออกมาพูดเยอะ แต่ตนเองไม่ใช่ผู้วินิจฉัย เพราะผู้วินิจฉัยคือ ศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับความเชื่อมั่นของต่างชาตินั้น นายพรเพชร กล่าวว่า ได้คุยกับเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแล้วโดยได้อธิบายทั้งหมด แต่สหรัฐฯ จะคิดอย่างไร คงไปตอบแทนไม่ได้ แต่พูดได้แค่ว่าจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้มาสั่งการอะไร