นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก และอดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) พร้อมตัวแทนภาคประชาชน นำรายชื่อที่รวบรวมผ่านทางเว็บไซต์ Change.org กว่า 80,000 รายชื่อ ยื่นถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ผ่านศูนย์บริการประชาชนเพื่อเรียกร้องให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงสปิริตโดยการลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยพูดไว้
"ข้อชี้แจงเกี่ยวกับนาฬิกาหรู โดยอ้างว่ายืมเพื่อนมาใส่ถือว่าไม่เคลียร์ และประชาชนไม่สามารถเข้าใจได้ ในฐานะผู้นำระดับสูงของประเทศ การกระทำเช่นนี้ถือว่ากฎหมายของประเทศไม่ศักดิ์สิทธิ์ และถือว่าหมดความชอบธรรม เพราะเทียบกับผู้นำต่างประเทศ เขาลาออกด้วยเรื่องเพียงเล็กน้อย ดังนั้นหากพล.อ.ประวิตรรักรัฐบาลชุดนี้ เป็นพี่ที่ดี เป็นบูรพาพยัคฆ์ที่รักน้องจริงก็ควรลาออก ก่อนที่จะเป็นปัจจัยทำให้รัฐบาลเสียหายยิ่งกว่าเดิม" นางทิชา กล่าว
ส่วนกรณีที่มีผู้ลงชื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประวิตร อยู่ในตำแหน่งต่อไปกว่า 1 แสนรายชื่อนั้น นางทิชา กล่าวว่า ทุกคนคงวิเคราะห์ได้ว่าชื่อนั้นถูกจัดตั้งมาด้วยกระบวนการใดบ้าง ซึ่งถือเป็นสิทธิ แต่เสียงที่บริสุทธิ์ ไม่มีผลประโยชน์ แอบแฝง และรู้สึกร้อนหนาวกับผู้นำที่ไม่โปร่งใส คนไทยก็ต้องวินิจฉัยเรื่องนี่อย่างจริงใจ
"พอจะคาดเดาได้ว่าการยื่นรายชื่อเรียกร้องครั้งนี้อาจไม่ได้รับการสนองตอบ เพราะรัฐกำลังเหลิงในอำนาจของตัวเอง เสียงของประชาชน 8 หมื่นรายชื่อนี้อาจเป็นแค่เสียงนกเสียงกาในความหมายของรัฐ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่รัฐทำเช่นนี้ ลางแห่งหายนะของรัฐก็จะมาพร้อมกันเช่นกัน เพราะไม่มีประวัติศาสตร์หน้าไหนที่บอกว่า ถ้ารัฐไม่ฟังเสียงประชาชนแล้วรัฐจะยังเข้มแข็งต่อไป เพราะขณะนี้ความเชื่อมั่นในรัฐบาลเริ่มน้อยลง หากยังทรนงในอำนาจที่มีอยู่ก็ถือว่าประเมินสถานการณ์ผิดพลาด" นางทิชา กล่าว
นางทิชา ยังเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รักษาความเที่ยงตรง เพราะกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร สะท้อนชัดว่า ป.ป.ช.ตีความโน้มเอียง ทำหน้าที่เป็นผงฟอกขาวให้ พล.อ.ประวิตร จนประชาชนเกิดความไม่เชื่อมั่น หมดความไว้วางใจ โดยเฉพาะคำกล่าวที่ว่า "หากนาฬิกายืมมาก็ไม่จำเป็นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน" ซึ่งหากตรงนี้เป็นบรรทัดฐานที่วางไว้ ต่อไปช่องทางนี้จะเอื้อให้กับนักการเมืองระดับสูงและข้าราชการในอนาคต
"แม้จะเป็นแค่คำพูดไม่ได้เขียนเป็นกติกา แต่เราก็จำเป็นต้องออกมาส่งสัญญาณต่อ ป.ป.ช.ว่าอย่าทำไร้เดียงสา กับเครื่องมือที่ดีที่สุดของประเทศ ที่รัฐธรรมนูญออกแบบเอาไว้ เมื่อกติกานี้ออกมา จึงไม่เข้าใจว่า ป.ป.ช.จะเลื่อนมาตรฐานตัวเองให้ต่ำลงไปทำไม ถ้ายังใช้คำว่ายืมเพื่อนเป็นบรรทัดฐาน ก็ไม่เข้าใจว่า ป.ป.ช.จะมีอยู่ไปเพื่ออะไร" นางทิชา กล่าว