พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีอดีตแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) สนับสนุนให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยว่า ขอแสดงความขอบคุณ แต่จะได้อยู่ต่อหรือไม่เป็นเรื่องของอนาคต เพราะยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครติดต่อเข้ามา แต่หากมีการติดต่อเข้ามา สิ่งแรกที่จะพิจารณาคือ นโยบายของพรรคและบุคลากรในพรรคว่ามีความรอบรู้ มีความโปร่งใสหรือไม่
ส่วนกรณีกลุ่มคนรุ่นใหม่ไปยื่นคำขอจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองนั้นก็ปล่อยให้ตั้งไป เพราะถือเป็นสิทธิ์ตามกฏหมาย แต่ประชาชนจะเลือกหรือไม่เป็นดุลยพินิจ เพราะไม่ว่าจะเป็นพรรคเก่าหรือพรรคการเมืองใหม่ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละบุคคลที่จะเลือก แต่ขอให้เลือกพรรคที่มีธรรมาภิบาลเข้ามาบริหารประเทศ
"ไม่ว่ากลุ่มใดที่สนับสนุนผม ผมก็ขอบคุณเท่านั้นเอง ทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะเป็นสิทธิของแต่ละบุคคล จะรักใครชอบใคร ก็เหมือนพวกเราก็เชียร์คนนั้นก็ว่าไป แต่มันจะได้หรือไม่ ไม่รู้เหมือนกัน เพราะผมเองก็ยังไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ จะเป็นอย่างไร ใครจะขอ ยังไม่เห็นมีใครมาติดต่อผมเลย มีแต่พูดทางสื่อนั่นแหละ แล้วหากขอมาสนับสนุนผม ผมรับหรือไม่ ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะเสนอได้ครั้งเดียว ยังไม่รู้เลย ยังไม่ไปถึงตรงนั่นเลย ยังปลดล็อคไม่ได้เลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในเดือนมิถุนายนที่จะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองมาพูดคุยเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง โดยจะหยิบยกเอาเรื่องการบริหารงบประมาณแผ่นดินมาหารือว่าจะใช้จ่ายอย่างไรไม่ให้ประเทศเกิดความเสียหายเหมือนอย่างที่ผ่านมา รวมถึงต้องทำความเข้าใจเรื่องยุทธศาตร์ เพราะอยากให้ช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองต่อไป
ส่วนกรณีที่ผลสำรวจหลายสำนักระบุว่าคะแนนนิยมของรัฐบาลลดลงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลไม่ได้ทำงานด้วยผลโพลหรือคะแนนนิยม แต่ทำงานด้วยพื้นฐานของข้อเท็จจริง นำเอาปัญหาและอุปสรรคในอดีตที่ผ่านมามาแก้ไข พร้อมขอบคุณทุกความคิดเห็นที่สะท้อนออกมาถือเป็นกระจกให้รัฐบาล แม้บางเรื่องจะไม่ไช่สาระและข้อเท็จจริง แต่สิ่งที่ตนเองเชื่อมั่นคือการทำงานของตนเองและคณะรัฐมนตรี