นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ (13 มี.ค.) จะยังไม่มีการเสนอเรื่องขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ วงเงิน 8,658 ล้านบาท เข้าสู่วาระการพิจาณา แต่อยู่ในขั้นตอนที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงสำนักงบประมาณ เพื่อชี้แจงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้งบจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ การขออนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ในส่วนของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบสาธารณูปโภค วงเงิน 8,658 ล้านบาทนั้น จะเป็นงบผูกพัน 3 ปีงบประมาณ ที่มาจากงบกลางปี 2561 และงบปกติ ปี 2562 และปี 2563
สาเหตุที่เงินเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตั้งไว้เมื่อครั้งอนุมัติโครงการก่อสร้างอาคารรัฐภา เนื่องจากต้องใช้ในการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีความทันสมัย เพื่อรองรับการประชุม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตามแผนงานที่กำหนดไว้สิ้นเดือนมีนาคมนี้จะต้องได้รายชื่อผู้รับจ้าง เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะภายในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ต้องส่งคืนพื้นที่เดิมทั้งหมด
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีข้าราชการรัฐสภา 18 คนไม่เห็นด้วยกับการเปิดประมูลด้วยวิธีการคัดเลือกเพียง 3 บริษัทนั้น นายประสิทธิ์ อนันตวิรุฬน์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง ข้าราชการ 18 คนนั้นเพียงแต่แสดงความกังวล และอยากให้การพิจารณาคัดเลือกผู้รับจ้างเป็นไปตาม พ.ร.บ.วิธีการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ 2560 และดำเนินการด้วยความรอบอบ ไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งกันแต่อย่างใด ซึ่งการคัดเลือกผู้รับจ้างมีบริษัท เมอร์ลิน เป็นผู้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะยื่นประมูล ไม่มีการล็อคสเปค ที่ผ่านมาได้ขอคำแนะนำจากกรมบัญชีกลางแล้วเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา