พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชารัฐที่มีกระแสข่าวเตรียมทาบทามให้นั่งในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรคขณะนี้ โดยเห็นจากข่าวในหนังสือพิมพ์เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีใครเชิญให้ไปนั่งในตำแหน่งประธานที่ปรึกษาพรรค
ขณะนี้ขอทำงานในหน้าที่ของตัวเองไปก่อน เพราะเรื่องการเมืองยังมีเวลาที่จะดำเนินการ
"ผมยังไม่เกี่ยวข้องอะไรสักอย่างเลย นั่งเก้าอี้ประธานที่ปรึกษายังไม่มีมาเชิญผมเลย มีแต่พูดๆกันไป ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรก็ยังไม่ทราบเหมือนกัน ผมขอเวลาทำงานไปก่อนแล้วกัน การเมืองยังมีเวลาว่ากันไปต่อไป"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
สำหรับกรณีที่พรรคการเมืองใหม่ส่วนใหญ่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น คงไม่เกี่ยวข้องกับเสน่ห์ส่วนตัว เพราะความมีเสน่ห์ใช้กับเรื่องของหนุ่มสาวที่จีบกัน แต่ส่วนตัวเป็นคนแบบนี้ คงไม่ใช่เรื่องของเสน่ห์
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า เรื่องการเมืองที่มีทั้งคนสนับสนุนและไม่สนับสนุน วันนี้ก็ยังมีสองฝ่ายเสมอ คือ ฝ่ายหนึ่งต้องการปฏิรูป อีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องการและอยากให้บ้านเมืองกลับไปเหมือนเดิม ทำให้เกิดความวุ่นวายแบบเดิม จึงสรุปว่าในวันนี้ยังไม่มีความพอดี ดังนั้นเป็นเรื่องของประชาชนทุกคนที่จะต้องติดตามความเคลื่อนไหวของนักการเมืองและพรรคการเมืองต่างๆ
พร้อมย้ำว่า หน้าที่ของ คสช.คือการทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือ พรรคการเมืองใด หากเป็นต้นเหตุของความวุ่นวาย ความขัดแย้งรุนแรง ก็จะต้องพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายว่าควรจะอยู่ต่อไปหรือไม่ อย่างไร จึงขออย่าลืมว่า คสช.ยังมีอำนาจในเรื่องเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนทราบข้อกฎหมายเป็นอย่างดี แต่ก็ยังมีความพยายามที่จะฝ่าฝืน
อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกดดันในการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เพราะทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินว่าอยากให้บ้านเมืองและประเทศเดินไปอย่างไร และต้องการการปฏิรูปหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดก็จะตัดสินในการเลือกตั้งที่จะเชื่อมโยงไปถึงการกำหนดแนวนโยบายของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะต้องพิจารณาว่าพรรคการเมืองได้นำเสนอนโยบายอะไรออกมาบ้าง
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การณีที่นักการเมืองเรียกร้องให้ลาออกจากตำแหน่ง หากจะไปนั่งเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคการเมืองว่า อยากให้กลับไปดูช่วงที่ผ่านมาว่านักการเมืองที่เป็นรัฐบาลมีการลาออกจากตำแหน่งก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ ดังนั้นสิ่งที่วิจารณ์อยู่ถือเป็นคนละเรื่อง ขออย่าบิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชนรังเกียจตนเองและ คสช.
ที่สำคัญสมัยก่อนนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองเดินสายหาเสียงเลือกตั้ง ในขณะที่ตนเองยังไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคใด ไม่ได้มีการหาเสียง มีแต่การทำงานอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหา ที่สำคัญตนเอง และ คสช.ไม่เคยอยู่เพื่อให้มีอำนาจเพื่อตนเอง แต่ต้องการอำนาจมาใช้เพื่อแก้ปัญหาและบริหารราชการแผ่นดิน
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเรียกร้องให้ยุบ คสช.นั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 265 กำหนดชัดเจนว่า คสช.ต้องทำหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามนั้น