พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัฒน์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เรื่องหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการปล่อยตัวชั่วคราวและการใช้สิทธิฟ้องร้องดำเนินคดีหรือการดำเนินกระบวนการพิจารณาในคดีอาญา ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
"ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการปรับปรุงบทบัญญัติเพื่อรองรับการดำเนินการเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราวให้มีความยืดหยุ่น และกำหนดมาตรการให้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้น รวมทั้งปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการรับฟ้องคดี เพื่อป้องกันการฟ้องคดีโดยไม่สุจริต และมุ่งให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดี" พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว
สาระสำคัญของร่างกฎหมายดังกล่าวคือ 1.แก้ไขหลักเกณฑ์เรียกประกันและหลักประกันในการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลย โดยขยายเพดานอัตราโทษจากจำคุกตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป เป็นอัตราโทษจำคุก 10 ปีขึ้นไป 2.กรณีบุคคลที่ศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราวหลบหนี กำหนดให้ศาลมีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานศาลดำเนินการแจ้งให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจับผู้ต้องหาหรือจำเลยคนนั้นได้ หรือหากมีเหตุจำเป็นก็ให้เจ้าพนักงานศาลสามารถจับผู้ต้องหาหรือจำเลยคนนั้นได้ด้วยตัวเอง 3.กรณีพิจารณาพิพากษาคดีที่มีราษฎรเป็นโจทก์ กำหนดให้ศาลสามารถมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องคดีก่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องได้ หากเห็นว่าโจทก์ใช้สิทธิฟ้องโดยไม่สุจริต บิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งหรือเอาเปรียบจำเลย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรมมีข้อสังเกตุว่ากรณีให้เจ้าพนักงานศาลสามารถจับผู้ต้องหาหรือจำเลยคนนั้นได้ด้วยตัวเองนั้นอาจไม่สอดคล้องกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดมีข้อสังเกตุว่ากรณีกำหนดให้ศาลสามารถมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องคดีก่อนนัดไต่สวนมูลฟ้องได้ ควรจะต้องมีกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนแน่นอน ซึ่งข้อสังเกตุทั้งสองประการจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีกครั้ง
นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.เห็นชอบการขอก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณของกรมคุมประพฤติในการเช่าเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) พร้อมระบบควบคุมการทำงานจำนวน 4,000 เครื่อง เป็นระยะเวลา 30 เดือน จากเดิมที่ ครม.เคยอนุมัติให้จัดซื้อเครื่องมือติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) จำนวน 3,000 เครื่อง
"เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานจากการจัดซื้อ 3,000 เครื่อง มาเป็นเช่าพร้อมระบบควบคุม 4,000 เครื่อง เป็นเวลา 30 เดือน ซึ่งมีข้อดีที่รัฐมีอุปกรณ์ดังกล่าวใช้งานต่อเนื่อง และมีสภาพใหม่หมุนเวียนใช้งบอยู่เสมอ ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณในการซ่อมบำรุง การใช้เครื่องมือนี้จะช่วยรับประหยัดงบประมาณได้เยอะ" พ.อ.อธิสิทธิ์ กล่าว