"สมคิด" ปัดพูดเรื่องตั้งพรรคการเมือง แต่ชี้ความต่อเนื่องเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการขับเคลื่อนประเทศ

ข่าวการเมือง Thursday May 3, 2018 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ถือว่าดี เพราะระดับความความเชื่อมั่นสูงสุดในรอบ 4 ปี แต่เศรษฐกิจของไทยสามารถทำให้ดีได้มากกว่านี้ หากสามารถทำทุกอย่างเป็นไปตามแผน สิ่งสำคัญคือ การปฎิรูปประเทศ ทั้งโครงสร้างทางเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การพัฒนาดิจิทัล และระบบฐานข้อมูลกลาง

ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่การเมืองต้องให้ความสำคัญ เพราะตัวขับเคลื่อนหลักประเทศคือ พรรคการเมือง หากพรรคการเมืองมีคุณภาพใช้เวลาไปกำหนดนโยบายที่ดี และเฟ้นหาบุคคลที่มีความรู้ความสามารถก็จะเป็นสิ่งที่ดีในการบริหารประเทศต่อไป แต่หากพรรคการเมืองคิดแต่เรื่องการเมือง หรือ โจมตีอีกฝ่าย ถือว่าไม่ทำให้อะไรดีขึ้น และทำให้ประชาชนเกิดความเบื่อหน่าย

"เหมือนอย่างที่นายกรัฐมนตรีพูดมา เห็นหรือไม่ ใครไปดูดใคร ไม่มีเลย แต่ทำไมคนอยากจะย้ายบ้าน เพราะบ้านที่อยู่แล้วไม่มีความสุขหรือไม่ แต่ละคนต้องพัฒนาบ้าน เพื่อเป็นบ้านที่ให้คนไทยฝากความหวังไว้ได้" นายสมคิด กล่าว

ส่วนการลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ในวันที่ 7-8 พ.ค.นี้ นายสมคิด กล่าวว่า เพื่อไปติดตามนโยบายการดำเนินแก้ปัญหาความยากจนให้กับประชาชน ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมที่นายกรัฐมนตรีจะไปพบกับประชาชน ส่วนจะมีการต้อนรับอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากพื้นที่มีปัญหารัฐบาลก็พร้อมรับฟังความคิดเห็น และยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับนายเนวิน ชิดชอบ เป็นอย่างดี

ส่วนจะลงพื้นที่ภาคใต้ เช่น จ.สุราษฎร์ธานี หรือไม่ นายสมคิดไม่ตอบแต่อมยิ้ม และพูดว่ากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็มีความสนิทสนมกันดี

นายสมคิด กล่าวกรณีมีข่าวความเคลื่อนไหวที่บ้านริมน้ำของนายสุชาติ ตันเจริญ แกนนำอดีต ส.ส.กลุ่ม 16 ว่า ไม่รู้จักบ้านดังกล่าว แต่รู้จักกับนายสุชาติ

นายสมคิด กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีพรรคการเมืองมาสนับสนุนให้การทำงานนายกรัฐมนตรีเดินหน้าต่อได้หรือไม่ แต่เห็นว่าจากการวิเคราะห์สถานการณ์ขณะนี้ความต่อเนื่องของการขับเคลื่อนประเทศเป็นสิ่งจำเป็น เพราะที่ผ่านมาก็ถือว่าผลงานของรัฐบาลเป็นไปได้ดี เพียงพอ แต่หากจะมีใครเข้ามาทำงานได้ดีกว่าก็เป็นสิ่งที่ทำได้ ขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้เลือก ซึ่งจะมีใครหรือพรรคไหน สนับสนุนใครหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับตนเอง วันนี้ตนเองได้รับมอบหมายให้ดูแลเศรษฐกิจก็ทำหน้าที่ด้านเศรษฐกิจไป

"ไม่เคยพูดว่าจะไปตั้งพรรคการเมือง แต่เคยบอกว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้ทำงานต่อหากตัดสินใจทำงานต่อ ส่วนพรรคไหนจะทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ทราบ เป็นเรื่องของแต่ละพรรค"

อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยตอบโต้ทางการเมืองกับใคร เพราะทุกคนต่างรู้จักกัน เป็นเพื่อนกันทั้งหมด และวันข้างหน้าอาจจะต้องทำงานร่วมกัน ดังนั้นควรใช้เวลาส่วนใหญ่เป็นคิดสิ่งดีๆ จะดีกว่า

"ทุกกลุ่มการเมืองรู้จักกัน เช่น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่วนตัวรู้จักว่าเป็นคนดี ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีคนที่ดีจำนวนมาก ดังนั้นต้องคิดว่าในอนาคตหากทำงานร่วมกันจะเป็นอย่างไร ซึ่งจำเป็นต้องก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด โดยเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง แล้วทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี ขณะที่การทำงานด้านการเมืองของตนเอง ก็เป็นเรื่องของอนาคต เพราะตอนนี้อายุ 65 ปีแล้ว"

นายสมคิด กล่าวว่า การเมืองหลังจากนี้จะต้องมีคนรุ่นใหม่ และนักการเมืองเดิมผสมผสานกัน โดยมีแนวคิดเป็นตัวนำ ไม่ใช่การเมืองนำประเทศ ส่วนใครจะเป็นผู้นำนั้นเป็นสิ่งที่ตามมา และยืนยันว่า ช่วงนี้ไม่ได้พบปะนักการเมืองที่เคยคุ้นเคยกัน เพราะทำงานในหน้าที่จนไม่มีเวลา แต่ส่วนตัวเมื่อเข้ามาทำงานในหน้าที่ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นก็จะมุ่งทำหน้าที่ให้ดีที่สุดให้ประเทศมุ่งไปข้างหน้า

นายสมคิด กล่าวว่า ขอให้พรรคการเมืองใช้เวลาในช่วงก่อนเลือกตั้งไปคัดสรรคนที่ดี คิดนโยบายใหม่ๆ เตรียมเอาไว้สำหรับการเลือกตั้ง และเมื่อผ่านการเลือกตั้งไปแล้ว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลหรือได้เข้าร่วมรัฐบาลก็สามารถทำงานเพื่อประเทศได้ ซึ่งอยากให้ช่วยกันสื่อความหมายออกไป ไม่ใช่พูดแต่เรื่องการดูดตัวนักการเมือง เพราะถือเป็นเรื่องไร้สาระ ผ่านมากี่สิบปี ก็ยังอยู่เพียงแค่นี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ