พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 512.50 ล้านบาทให้แก่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเป็นค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบ 273 ล้านบาท, ค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 150 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ 88 ล้านบาท ซึ่งจะเร่งรัดให้การก่อสร้างแล้วเสร็จเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยทั้งโครงการจะต้องเสร็จเรียบร้อยภายในเดือน ธ.ค.62
โดยในส่วนของห้องประชุมวุฒิสภา (ส.ว.) ห้องประชุมกรรมาธิการ และที่ทำงานของบุคลากรรัฐสภากำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.61 ส่วนห้องทำงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และพื้นที่เชื่อมต่อบางส่วนกำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.62 เพื่อรองรับการเลือกตั้ง
"ในรายการแรกที่ทางรัฐสภาขอเพิ่มเติมมา 512 ล้านบาทเพื่อเร่งรัดดำเนินการในสามรายการ ครม.มีมติเห็นชอบอนุมัติ" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรยังเสนอขออนุมัติวงเงินงบประมาณจำนวน 8,135 ล้านบาท และขอขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันงบประมาณเป็นปี 61-63 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะดำเนินการไปพร้อมๆ กับการก่อสร้างดังกล่าว ได้แก่ งานระบบควบคุมแสงสว่างภายนอกอาคาร, ห้องประชุม ส.ส.-ส.ว., ทางเดินภายในอาคาร, งานผ้าม่าน, งานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสื่อสาร
ก่อนหน้านี้ ครม.เคยอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ไว้จำนวน 16,333 ล้านบาท พร้อมระยะเวลาผูกพันงบประมาณปี 54-56 แต่มีงานสองรายการที่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามที่ ครม.ได้เคยอนุมัติไว้ คือ งานสาธารณูปโภคและสาธารณูปการวงเงิน 586 ล้านบาท และงานระบบประกอบอาคารและงานเทคโนโลยีอีก 3,000 ล้านบาท
โดยในส่วนของงานสาธารณูปโภคและสาธารณูปการที่ได้รับอนุมัติงบไว้แล้ว 586 ล้านบาท ขอเพิ่มอีก 826 ล้านบาท ขณะที่งานระบบประกอบอาคารและงานเทคโนโลยีที่ได้รับอนุมัติงบไว้แล้ว 3,000 ล้านบาท ขอเพิ่มอีก 3,493 ล้านบาท และค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานอีก 229 ล้านบาท
"ในกลุ่มที่สองนี้รวมเบ็ดเสร็จ 8,135 ล้านบาท ครม.ยังไม่ให้ความเห็นชอบด้วยเหตุที่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน ประกอบกับอุปกรณ์ประเภทเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งหลายบางชิ้นมีราคาแพงเกินไป ครม.จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเรื่องนี้กลับไปทำรายละเอียดแล้วเสนอมาใหม่" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว