นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านกฎหมาย ออกมาท้วงติงกระบวนการปฎิรูปประเทศที่ยังติดขัดว่า ส่วนตัวได้พูดคุยและหารือกับนายบวรศักดิ์ในประเด็นปฎิรูปประเทศแล้วหลายครั้ง ซึ่งนายบวรศักดิ์ก็ตระหนักดีว่าการรีฟอร์ม หรือการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องใช้เวลา เพราะต้องเปลี่ยนแปลงในสิ่งเดิมมาสู่สิ่งใหม่ แต่การปฎิรูปประเทศจะต้องมีส่วนเกี่ยวกับข้าราชการที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนในงานด้านต่างๆ ซึ่งแนวทางที่รัฐบาลใช้ในการปฎิรูป คือ ทั้งสั่งการให้ข้าราชการไปปฎิบัติ และรับฟังข้อเสนอแนะจากข้าราชการ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม แผนการปฎิรูปประเทศได้มีการประกาศใช้ในราชกิจจานุเษกษา เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เพิ่งประกาศได้เพียง 1 เดือน 10 วันเท่านั้น จึงจำเป็นต้องให้เวลาให้ข้าราชการปรับตัว ทำงานตามแผนปฎิรูป เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องใหม่ ซึ่งในแผนปฎิรูปประเทศ ได้กำหนดคณะกรรมการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ ซึ่งมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ทำหน้าที่ในการติดตามการทำงานของข้าราชการ และหากไม่ปฏิบัติตามแผนปฏิรูปก็อาจถึงขึ้นเป็นคดีความนำไปสู่การฟ้องร้องได้
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรีแสดงความไม่พอใจเรื่องดังกล่าวนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่านายกฯ อาจจะเห็นว่าตลอดเวลา 4 ปีมีการเดินหน้าการปฏิรูปมาอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่บางเรื่องยังไม่เห็นผลในทันที
นายวิษณุ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม ไปรวบรวมงานการปฎิรูปที่เป็นรูปธรรม เพื่อนำเสนอต่อสายตาประชาชนในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีเตรียมแต่งตั้งคณะกรรรมการปฎิรูปกฎหมายในระยะเร่งด่วน ซึ่งมีนายบวรศักดิ์เป็นประธาน เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในการเดินหน้าออกกฎหมายในบางเรื่องที่บางกระทรวงไม่สามารถเป็นเจ้าภาพได้ เนื่องจากเป็นกฏหมายที่มีการบูรณาการการทำงานจากหลายกระทรวง จึงต้องให้คณะกรรมการชุดนี้เข้าไปทำงาน โดยไม่เป็นการทำงานที่ซ้ำซ้อนกับคณะกรรมการปฎิรูปกฎหมาย เพราะคณะกรรมการปฎิรูปกฎหมาย เป็นเพียงคนกำหนดแนวทางว่าจะปฎิรูปกฎหมายด้านใดเท่านั้น แต่คณะกรรมการปฎิรูปเร่งด่วน คือ ลงมือทำงานทันที
นายวิษณุ ยืนยันว่า การที่นายบวรศักดิ์ออกมาพูดไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อยืดอายุของรัฐบาล แต่ก็ขอบคุณที่นายบวรศักดิ์ได้ออกมาแสดงความเห็น ทำให้เห็นว่า การปฎิรูปในบางเรื่องนั้นเป็นเรื่องยุ่งยากและต้องใช้เวลาที่จะเห็นเป็นรูปธรรม