คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าแจ้งความกับ สน.ชนะสงคราม เพื่อดำเนินคดีกับ 5 แกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้งกรณีที่จัดการตั้งชุมนุมการเมือง ซึ่งขัดต่อคำสั่งของ คสช. ขณะที่ประกาศให้บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ควบคุม โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรึงกำลังโดยรอบเพื่อเตรียมพร้อมรับมือ ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมราว 300-500 คนยังถูกเจ้าหน้าที่สกัดกั้นอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ที่ยืนยันว่าจะเคลื่อนขบวนในช่วงบ่ายวันนี้
ฝ่ายกฎหมาย คสช.ได้จ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อให้ดำเนินการกับแกนนนำ 5 คน คือ นายรังสิมันต์ โรม นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นายเอกชัย หงส์กังวาน นางสาวณัฏฐา มหัทธนา และนายปิยะรัตน์ จงเทพ ในข้อหาร่วมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆที่มีจำนวนเกิน 5 คน โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตหัวหน้า คสช. หรือผู้ได้รับมอบหมาย
ขณะที่อธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้าแจ้งความกับ สน.ชนะสงคราม เพื่อเอาผิดแกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งกรณีที่ลักลอบตัดกุญแจรั้วมหาวิทยาลัยเช่นกัน
พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ11) ในฐานะทีม คสช.ระบุว่า การจัดกิกรรมต่างๆ ต้องเป็นไปตามกฎหมาย และคำสั่งคสช. และต้องไม่ถูกปลุกเร้าให้เกลียดชังต่อกัน และเมื่อถึงเวลาเลือกตั้งได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ คสช.และรัฐบาลปัจจุบันจะส่งมอบอำนาจการบริหารประเทศให้รัฐบาลใหม่ โดยกลไกต่างๆ จะดำเนินการตามเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
ส่วนการดูแลการจัดกิจกรรมวันนี้ใช้กรอบกฎหมายปกติ และมอบให้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการหลัก โดยยึดหลักการดูแลอำนวยความสะดวก รักษาความปลอดภัย อีกทั้งการปฏิบัติงานเป็นไปตามขั้นตอนที่เหมาะสมตามอำนาจหน้าที่
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนออกมานอกรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ฯ แล้วนั้นเป็นความชัดเจนว่ามีความผิดฐานขัดคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ดังนั้นเจ้าหน้าที่จะดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมายภายหลัง ยืนยันว่าไม่ใช่การกลั่นแกล้ง เป็นการใช้กฎหมายปกติ เนื่องจากศาลปกครองยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวของกลุ่มผู้ชุมนุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดีกับแกนนำและผู้ชุมนุมทั้งหมดเนื่องจากคำขออนุญาตจัดการชุมนัดขัดคำสั่งคสช.ที่ 5/2558 และ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 แม้ว่า สน.ชนะสงครามเคยอนุญาตไว้ แต่เนื่องจากมีการเพิ่มกิจกรรมทางการเมือง จึงทำให้ต้องยกเลิกการให้อนุญาตให้จัดการชุมนุม ผู้ชุมนุมจะนำมาใช้กล่าวอ้างไม่ได้ และขอให้สื่อมวลชนที่จะเข้าปฏิบัติหน้าที่บริเวณกลุ่มการชุมนุม ต้องเป็นผู้ที่สวมปลอกแขนได้รับจากกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าพื้นที่เท่านั้น
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ยืนยันว่า จะไม่ให้กลุ่มคนอยากเลือกตั้งเคลื่อนขบวนมายังทำเนียบรัฐบาล หากฝ่าฝืนจะจับกุมทันที เนื่องจากศาลปกครองยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวในการชุมนุมวันนี้ โดยขอให้ส่งตัวแทนเข้ามายื่นหนังสือแทนการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมเข้ามา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ไม่ได้กังวลว่าจะเกิดเหตุความรุนแรง หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถสกัดกลุ่มแดงฮาร์ดคอร์ได้ที่จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถดูแลสถานการณ์ได้ โดยจะต้องระวังไม่ให้มีการกระทบกระทั่งกัน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการทำงานของรัฐบาลครบรอบ 4 ปีว่า รัฐบาล คสช.พยายามทำงานในทุกมิติ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่อย่างหนัก และต้องสั่งการ 21 กระทรวงเพียงคนเดียว ที่ผ่านมาการทำงานของรัฐบาลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
แต่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่ารัฐบาล คสช.อยู่ในอำนาจนานเกินไปหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ตลอดเวลาที่อยู่ในอำนาจก็ได้ขับเคลื่อนงาน โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ