พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่กรมบัญชีกลางได้ออกระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจ้างพนักงานหรือลูกจ้างโดยใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณปี 2561 เช่น กระทรวงสาธารณสุขอาจมีรายได้จากการเปิดคลินิกนอกเวลาแล้วนำรายได้ดังกล่าวไปจ้างพนักงานหรือลูกจ้างชั่วคราว ต่อจากนี้ไประเบียบฯ ขอให้หน่วยงานราชการพึงหลีกเลี่ยงที่จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าว แต่หากหน่วยงานใดได้ดำเนินการไปก่อนที่ระเบียบฯ จะออกมาก็ให้ยุบเลิกตำแหน่งดังกล่าวเมื่อหมดสัญญา แต่หากมีความจำเป็นขอให้ไปทำความตกลงกับกระทรวงการคลังก่อน
"บางทีหน่วยงานเอาเงินนอกงบประมาณไปจ้างพนักงานหรือลูกจ้าง พอนานวันเข้าจำนวนเยอะขึ้น ประกอบกับมีนักการเมืองสมัยก่อนบางคนบอกว่ามีความจำเป็นจะต้องมี ก็ไปชักชวนให้มาออกมาเดินขบวนกดดันหน่วยงานรัฐ ถ้าทำอย่างนั้นวันข้างหน้าจำนวนข้าราชการก็โปร่งเหมือนเดิม ไม่เหมือนนโยบายที่ต้องการลดให้เหมาะสม ให้เป็นข้าราชการที่มีศักยภาพสูงสุด มีขนาดของหน่วยเล็กลง" พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อบุคลากรด้านสาธารณสุข ซึ่งข้อมูลเมื่อวันที่ 1 มี.ค.61 มีลูกจ้างที่เป็นแพทย์ 181 อัตรา, ทันตแพทย์ 4 อัตรา, เภสัชกร 202 อัตรา เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขมีข้อตกลงกับกระทรวงการคลังไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่จะบังคับใช้กับหน่วยงานอื่น