นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติว่านายดอน ปรมัติวินัย รมว.ต่างประเทศ ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี เนื่องจากคู่สมรสถือครองหุ้นในธุรกิจอยู่เกินกว่า 5% และไม่มีการแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดว่า ส่วนตัวเชื่อว่า กกต.จะแจ้งให้ รมว.ต่างประเทศ ได้รับทราบแล้ว แต่ทุกอย่างต้องรอความชัดเจนจาก กกต.อีกครั้ง เพราะขณะนี้รัฐบาลยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ
นายวิษณุ กล่าวว่า นายดอนได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.แล้ว แต่ปัญหาถ้าถือหุ้นเกิน 5% ต้องทำหนังสือโอนหุ้นให้คนอื่นดูแล และแจ้งให้ประธาน กกต.ทราบไม่ใช่การปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ส่วนรายละเอียดทรัพย์สินต้องไปถาม กกต.และนายดอนเอง ทั้งนี้หากนายกรัฐมนตรีสอบถามเรื่องดังกล่าวก็จะอธิบายให้ได้รับทราบเหมือนที่พูดกับสื่อมวลชน
การที่ กกต.ลงมติเรื่องดังกล่าวด้วยคะแนน 3 ต่อ 2 เสียงนั้นคงไม่ใช่ปัญหา เพราะเป็นเรื่องที่มีการลงคะแนนแล้วมีเสียงเท่ากัน คือ 2 ต่อ 2 เสียง ดังนั้นประธาน กกต.จึงได้ลงคะแนนเพื่อชี้ขาด ซึ่งคะแนนที่ออกมานั้น กกต.ได้พิจารณาตามข้อกฎหมาย และเป็นเรื่องของบรรทัดฐานที่ต้องศาลชี้ขาด
ขณะที่อีกฝ่ายเห็นว่าไม่น่าจะเป็นความผิด เพราะเป็นการดำเนินการก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ ดังนั้นประธาน กกต.จึงได้ชี้ขาดเพื่อให้มีการส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้คำวินิจฉัยเป็นบรรทัดฐานและนำไปใช้กับกรณีกับนักการเมืองในอนาคต ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกติ เพราะไม่ใช่ความผิดในลักษณะอาชญากรรม แต่เป็นความผิดในกรณีที่คู่สมรสมีหุ้นอยู่ในธุรกิจเกิน 5% โดยไม่ได้มีการแจ้งต่อ ป.ป.ช.
ส่วน รมว.ต่างประเทศ จะต้องแสดงสปิริตลาออกเลยหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า คงต้องรอให้มีความชัดเจนจาก กกต.ก่อน เพราะเร็วไปที่จะพูดเรื่องนี้ เช่นเดียวกับการปรับ ครม.ที่ต้องรออีกสักพัก ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะพูด หากถึงเวลาที่ศาลมีคำตัดสินแล้ว ปรากฎว่ามีความผิดก็จะมีความชัดเจนว่าจะต้องปรับในลักษณะใด แต่ในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศคงไม่มีปัญหา เพราะมีทั้ง รมช.ต่างประเทศ และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลอยู่ จึงจะไม่เกิดปัญหา
"รมว.ต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องหยุดพักการปฏิบัติงาน เพราะเคยมีตัวอย่างในอดีตที่สามารถทำงานต่อได้ตามปกติทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่วนเรื่องของการแสดงสปิริตนั้นถือเป็นเรื่องส่วนตัว ตนเองไม่สามารถตอบแทนได้ และขณะนี้ได้มีการรายงานข้อมูลดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีได้รับทราบแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้แสดงความกังวลในเรื่องดังกล่าว"
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นให้ตรวจสอบการดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และกรรมการสภาบัณฑิตพัฒนศิลป์ของตนเองว่าเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้นว่า ในประเด็นนี้ กกต.ได้แจ้งมานานแล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีบทเฉพาะกาลยกเว้นให้ เช่น ข้าราชการเป็นรัฐมนตรีก็ได้ เป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.).ก็ได้ ดังนั้นการที่ตนเองดำรงตำแหน่งนายกสภามหาวิทยาลัยอยู่ รัฐธรรมนูญยกเว้นให้เป็นได้
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบรายละเอียดเรื่องดังกล่าว แต่คิดว่านายกรัฐมนตรีน่าจะปรึกษากับนายวิษณุมากกว่า ส่วนการปรับ ครม.ก่อนเลือกตั้งหรือไม่นั้น ส่วนตัวเห็นว่ายังทำงานกันได้ มีแผนงานชัดเจน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย