พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ เดินทางไปยังอาคารเอนกประสงค์สัมมนาและจัดแสดงนิทรรศการบึงบอระเพ็ด โดยมีประชาชน, อดีต ส.ส., อดีต ส.ว.และนักการเมืองท้องถิ่น มารอต้อนรับนายกรัฐมนตรี โดยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เป้าหมาย การจัดที่ดินทำกินพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าปลายห้วยกระเสียวและเป็นพยานมอบเงินกู้ตามโครงการยุ้งฉางของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 โดยเฉพาะนครสวรรค์ถือว่ามีศักยภาพสูง ทั้งในแง่การผลิต พืชเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง และผลไม้หลายชนิด ดังนั้นจะต้องสร้างความร่วมมิอ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการที่ดี ทั้งในเรื่องของน้ำ พื้นที่ทางการเกษตร และที่ดินทำกินให้กับประชาชน และการที่จังหวัดนครสวรรค์มีบึงบอระเพ็ดที่มีทะเลสาบใหญ่ที่สุดในประเทศ รัฐบาลจึงเน้นที่จะให้มีโครงการเพื่อเป็นแหล่งกักเก็บน้ำของการกระจายน้ำไปยังพื้นที่อื่นๆ เพื่อประโยชน์ในการทำการเกษตรทุกประเภท ทั้ง เกษตรกรที่อยู่ในภาคการผลิต หรือการเพราะปลูก และในส่วนที่เป็นเกษตรแปรรูป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า งบประมาณโครงการไทยนิยมที่จัดเตรียมไว้ประมาณ 2 แสนล้านบาทนั้น ไม่ใช่งบที่ใช้สำหรับการหาเสียง แต่เป็นงบที่ใช้ในการสร้างประชาธิปไตยในพื้นที่ โดยให้แต่ละพื้นที่เลือกตัวแทนผู้นำหมู่บ้าน ในการสร้างความเข้าใจในประชาธิปไตย พร้อมยืนยัน เรื่องประชารัฐหรือไทยนิยมไม่ใช่เรื่องของการเมือง แต่ทุกคนต้องเตรียมความพร้อมไปสู่ประชาธิปไตยวันข้างหน้า โดยไม่อยากให้กังวลกับตัวเองมากนัก
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวขอบคุณบรรดานักการเมืองกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 พร้อมขอให้สัญญาในเรื่องของการเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน เพราะวันข้างต้องเดินไปสู่ประชาธิปไตย ตนเองต้องเข้าสู่คูหาเลือกตั้งเช่นเดียวกับทุกคน จึงขอให้ประชาชนเลือกให้ดี เลือกให้ถูก ให้ได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลเข้ามาดูแลประชาชนทั่วถึงทุกพื้นที่
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ลงจากเวทีไปแนะนำคณะรัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการที่ร่วมลงพื้นที่ครั้งนี้ ก่อนจะทักทายกับอดีตนักการเมืองอย่างเป็นกันเอง
สำหรับอดีต ส.ส., อดีต ส.ว.และนักการเมืองท้องถิ่นในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 ที่มาพบปะนายกรัฐมนตรี ได้แก่ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา, นายสิงห์ชัย ทุงทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี, นายอนุชา นาคาศัย อดีต ส.ส.ชัยนาท, นายสำราญ ศรีแปงวงศ์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคประชาธิปัติย์ และนายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร อดีต ส.ส.นครสวรรค์ พรรคประชาธิปัตย์
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณนักการเมืองที่มาร่วมรับฟังแนวทางการแก้ปัญหาในวันนี้ ซึ่งทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เพื่อทำให้วันข้างหน้าเมื่อไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ มียุทธศาสตร์ชาติแล้ว จะเดินหน้าร่วมกันอย่างไร เพราะต้องยอมรับว่า เมื่อโลกเปลี่ยน ประเทศไทยก็ต้องเปลี่ยนตาม พร้อมขอร้องให้เข้าถึงความจำเป็นที่ต้องมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อเป็นกรอบในการขับเคลื่อนประเทศ ไม่ใช่การสืบทอดอำนาจ ซึ่งตามข้อเท็จจริง แม้รัฐบาลจะมีอำนาจในการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ต้องยอมรับว่ายังมีปัญหาการทุจริตที่คอยบั่นทอนความเจริญของประเทศอยู่ เชื่อว่าเรื่องนี้ทุกคนเข้าใจตรงกัน แต่ติดที่ว่าจะทำอย่างไรให้ปัญหาหมดไปให้ได้ ที่สำคัญอีกประการ คือต้องไม่ให้ความขัดแย้งรุนแรงเกิดขึ้นมาอีก เพราะวันนี้เรากำลังก้าวไปสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง ทั้งนี้ยืนยันว่า สิ่งรัฐบาลชุดนี้ทำมาจะไม่สูญเปล่า และขออย่ากังวลกับตัวเองมากนักในเรื่องการเมือง
นายสิงห์ชัย กล่าวว่า มาให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีตามปกติ เนื่องจากได้รับการเชิญจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ส่วนตัวไม่ขอมองว่าการลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นประเด็นการเมือง แต่ให้มองการที่ผู้บริหารลงพื้นที่พบปะประชาชนเป็นเรื่องดี เพราะประชาชนจะได้รับประโยชน์
ด้านนายชาดา ระบุว่า ขณะนี้ตนเองยังไม่สังกัดพรรคการเมืองใด แต่ยืนยันจะไม่ไปอยู่กับพรรคที่สนับสนุนทหารอย่างแน่นอน แต่หากพรรคที่ตนเองสังกัดไปร่วมรัฐบาลกับทหารก็สามารถยอมรับได้
โดยอดีต ส.ส.ทั้งหมดพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การมาครั้งนี้เนื่องจากได้รับเชิญจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้มาต้อนรับนายกรัฐมนตรี ไม่มีการหารือประเด็นทางการเมือง หรือมีนัยยะอื่นแอบแฝง