นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือกับผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ถึงการปลดล็อคพรรคการเมืองเพื่อเดินหน้าตามโรดแมพไปสู่การเลือกตั้งว่า ที่ประชุมได้นำประเด็นปัญหาต่าง ๆ มาพูดคุยกัน
โดยมีประเด็นที่ยังต้องให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลได้ตัดสินใจ คือ เรื่องการประชุมใหญ่ของพรรคการเมืองว่า สามารถทำได้หรือไม่ ปัญหาการจัดตั้งสาขาพรรคที่ยังพบว่าหลายพรรคไม่สามารถดำเนินการได้ และเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งที่จะทำได้ช้าหรือเร็ว ซึ่งจะต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชนด้วย
รวมถึงเรื่องการบริหารจัดการกำหนดเวลาต่างๆ เนื่องจากการประกาศใช้ร่างกฎหมายประกอบรัฐธรมนูญอีก 2 ฉบับจะไปเกี่ยวโยงกับเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น หรือ เรื่องการสรรหากกต.ชุดใหม่จะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งมองไว้หลายทางเลือก
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องการทำไพรมารีโหวตจะมีการรายงานให้ คสช.พิจารณาว่าหากจัดทำไพรมารีโหวตจะมีปัญหาอย่างไรบ้าง และจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่หากไม่มีการทำจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป ซึ่งความเห็นพรรคการเมืองส่วนใหญ่ก็ไม่อยากให้มีการทำไพรมารีโหวต เพราะปัญหามาจากการแบ่งเขต และการประชุมพรรค หากยังไม่สามารถดำเนินการได้ก็ไม่สามารถทำไพรมารีโหวตได้
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมเห็นว่าแนวทางการแก้ปัญหาสามารถดำเนินการได้หลายทาง หากเรื่องใดอยู่ในอำนาจของ กกต.ก็สามารถนำไปแก้ปัญหาได้ แต่บางเรื่องอาจต้องออกเป็น พ.ร.บ.หรือ พ.ร.ก. หรืออาจจะต้องใช้คำสั่ง ม.44 ในการแก้ปัญหา แต่ในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งคงไม่ใช่แนวทางการออก พ.ร.ก.เพราะไม่ได้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคงหรือมีความจำเป็นเร่งด่วน
ทั้งนี้ ในส่วนของการหารือกับพรรคการเมือง นายวิษณุ ยืนยันว่า คงจะมีการนัดหารือภายในเดือนนี้ แต่อาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว และยังต้องรับฟังความเห็นจากแต่ละพรรคการเมืองก่อน
ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นภายในเดือน ก.พ. หรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กล้าพูดไปอย่างนั้น แต่เป็นความคาดหมายว่ารัฐบาลจะสามารถบริการจัดการได้ แต่หากมีตัวแปรบางอย่างที่สมเหตุสมผล อาจจะต้องมีการบวก-ลบเวลา ซึ่งต้องอธิบายเหตุผลได้ โดยไม่ได้นำปัจจัยเรื่องเหตุความวุ่นวายมาเป็นตัวแปรแต่อย่างใด