นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการวางกรอบจัดการเลือกตั้งในปี 2562 ในที่ประชุมร่วมระหว่างพรรคการเมือง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และ กรธ.เมื่อวานนี้ โดยยืนยันว่าการกำหนดวันเลือกตั้งนั้นขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยไปแล้ว หากทั้ง 5 ปัจจัยเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การจัดการเลือกตั้งก็จะเกิดได้เร็วขึ้น ซึ่งการกำหนดกรอบเลือกตั้งอย่างช้าในเดือนพ.ค.62 นั้น ไม่ได้เป็นความพยายามของ คสช.ที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก แต่เป็นกรอบที่กำหนดเผื่อไว้สำหรับปัจจัยต่างๆ ที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง
ส่วนการพิจารณารูปแบบการจัดทำไพรมารีโหวตที่ คสช.จะต้องตัดสินใจนั้น ยังต้องดูว่าปัญหาจริงๆ เป็นอย่างไร แต่ข้อเสนอต่างๆที่พรรคการเมืองร้องขอมา ก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกัน ซึ่งถ้าจะให้ยกเลิกไปเลยก็น่าเสียดาย เพราะสนช.พยายามคิดขึ้นมาไว้แล้ว และถ้าเลื่อนออกไปจะทำให้การทำไพรมารี่โหวตไม่ได้ทดลองใช้จริง และถ้าทำในภูมิภาคก็ไม่ตอบโจทย์การมีส่วนร่วม ดังนั้นอาจจะมีการหาวิธีการใหม่ที่ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับการปฏิรูปพรรคการเมือง
ส่วนกระแสแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคการเมืองหลังการเลือกตั้งนั้น นายมีชัย กล่าวว่า สามารถทำได้ แต่ต้องมีเหตุผลเพียงพอ และเห็นพ้องต้องกันจากทุกฝ่าย อย่าเอาแต่ข้อไม่ชอบของตัวเองมาพูดฝ่ายเดียว เพราะไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งประเทศ เพราะยังมีฝ่ายที่ชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้จำนวนมาก ซึ่งหากแก้กันจริงๆ ประชาชนฝ่ายที่ไม่ต้องการให้แก้ ก็สามารถปกป้องรัฐธรรมนูญได้ โดยใช้ช่องทางต่างๆ หรือการรวมตัวในการคัดค้าน แต่ไม่ใช่ถึงขั้นทะเลาะกัน