พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวร่วมงานวันสถาปนาครบรอบ 68 ปี กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ค่ายนวมินทราชินี อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ว่า ขอให้กำลังพลดูแลยุทโธปกรณ์ให้เสมือนบ้านตัวเอง เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาแพงและประเทศไทยยังผลิตเองไม่ได้ ถึงแม้อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้จะไม่ได้นำไปรบ แต่สามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้เวลามีภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม จึงขออย่าโจมตีเวลาจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์
นายกรัฐมนตรี ยังกำชับให้นำกรณีช่วยเหลือเยาวชนทีมพุตบอลหมู่ปป่าอะคาเดมี่ 13 ชีวิตที่ติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนมาเป็นบทเรียน และถอดบทเรียนครั้งนี้มาปรับใช้ในการฝึกของหน่วยปฏิบัติการพิเศษต่อไป ซึ่งเป็นรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทั้งนี้ในส่วนของกรมทหาราบที่ 21 ได้ส่งกำลังสนับสนุน ทั้งชุดปฏิบัติการดำน้ำชั้นครู พร้อมทีมแพทย์เสนารักษ์รวม 12 นาย สนับสนุนภารกิจพาทั้ง 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงตามหลักการกู้ชีพอย่างปลอดภัย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในช่วงบ่ายจะลงพื้นที่จังหวัดระยองเพื่อตรวจเยี่ยมโรงเรียนซึ่งมีภาคเอกชนหลายส่วนเข้ามาให้การสนับสนุนโดยเฉพาะเรื่องของโครงการอาหารกลางวัน ซึ่งมีความเข้มแข็งดี ถือเป็นแบบอย่าง เรื่องของอาหารกลางวันแก่โรงเรียนต่างๆทั่วไป นอกจากนี้จะไปดูการบริหารจัดการขยะว่าครบถ้วนหรือไม่ และจะนำมาเป็นแบบอย่างในการบริหารจัดการขยะต่อไป
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานความห่วงใยเป็นพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม และขออย่านำสิ่งที่ทรงรับสั่งไปสร้างความสับสน พระองค์ทรงพระราชทานกำลังใจให้ทุกอย่างเป็นบทเรียนแก่เราในอนาคต และทรงชื่นชมการทำงานทุกอย่าง ทุกหน่วยราชการทั้งภาครัฐและเอกชนที่ช่วยกัน นั่นแหละคือคนไทยด้วยกัน และนี่จะเป็นบรรทัดฐานของประเทศไทยในอนาคต
ทั้งนี้ การที่จะเกิดความรักความสามัคคีของคนในชาติไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดเหตุอะไร แต่คนไทยต้องรักกัน เพราะมีชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์เป็นหลักของประเทศ แต่หากมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ต้นไม่ว่าจะมีเหตุการณ์หรือไม่ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ทั้งหมด ที่สำคัญคือต้องสร้างแบบแผนในการทำงานให้ได้
ส่วนความคืบหน้าการนำ 13 ชีวิตออกจากถ้ำหลวงนั้น เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการอยู่ แต่ก็มีปัญหาอยู่บ้าง ซึ่งวิธีที่จะนำ 13 ชีวิตออกมามี 2 แนวทาง คือ เจาะด้านบนถ้ำ ซึ่งเป็นวิธีที่จะนำตัวออกมาได้เร็ว แต่ต้องหาช่องทางให้เจอ ส่วนอีกหนึ่งวิธีคือการนำออกทางปากถ้ำซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็ก เพราะปัญหาที่สำคัญคือลักษณะภายในถ้ำไม่ได้เป็นอุโมงค์โล่งแบบท่อลอดออกมาได้โล่งๆ บางจุดลอดได้ที่ละคน ดังนั้นต้องดูว่าเด็กมีความพร้อมหรือไม่ ถ้าไม่พร้อมต้องหาวิธีการอื่น ซึ่งจะทำให้เร็วที่สุด แต่อย่ามากำหนดว่าจะต้องทำให้ได้วันไหน