ศาลฎีกาฯ ออกหมายจับ "ทักษิณ" อีกใบ หลังเบี้ยวนัดคดีหวยบนดิน

ข่าวการเมือง Wednesday July 25, 2018 16:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งออกหมายจับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยในคดีหวยบนดิน เนื่องจากผิดนัดไม่ยอมเดินมาฟังการพิจารณาคดีตามคำสั่ง

โดยวันนี้ ศาลฎีกาฯ มีคำสั่งพิจารณาคดีนัดแรกในคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เข้าเป็นคู่ความแทน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร กับพวกรวม 47 คน เป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 84, 86, 90, 91, 147, 152, 153, 154 และ 157 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 3, 4, 8, 9, 10 และ 11 กรณีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (หวยบนดิน) ซึ่งผู้แทนของ ป.ป.ช.ฝ่ายโจทก์เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดเดินทางมา

ทั้งนี้ องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้วแต่ไม่เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าจำเลยหลบหนีจึงให้ออกหมายจับ กรณีหากไม่สามารถจับกุมได้ภายใน 3 เดือน ศาลมีอำนาจดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลยได้ แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดีตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28 วรรคสอง ให้โจทก์ติดตามผลการจับกุมพร้อมรายงานให้ศาลรับทราบ ส่วนที่จำเลยไม่มาศาลในการพิจารณาครั้งแรกให้ถือว่าจำเลยให้การปฏิเสธตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 33 วรรคสาม จึงให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 14 พ.ย.61 เวลา 14.00 น.โดยให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดไต่สวนไม่น้อยกว่า 14 วัน และให้ส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายต่อไป

นับตั้งแต่มีการแก้ไขกระบวนการพิจารณาคดีตรามกฎหมายใหม่ ศาลฎีกาฯ ได้ออกหมายจับนายทักษิณเป็นใบที่ 5 แล้ว โดยคดีที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้ 4 คดี ได้แก่ คดีทุจริตให้เอ็กซิมแบงค์ปล่อยกู้ให้รับบาลเมียนมา, คดีออกกฎหมายแปลงค่าสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรสามิต, คดีร่วมทุจริตปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยฯ ให้กลุ่มกฤษดามหานคร และคดีอนุมัติให้กระทรวงการคลังเข้าไปเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟู บมจ.ทีพีไอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ