พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงกรณีใช้อำนาจตามมาตรา 44 ให้ พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า กรณีนี้ไม่ใช่การปลดออกจากตำแหน่ง ขออย่าพูดให้เกิดความเสียหาย แต่เรื่องนี้เป็นการปรับเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน
"การปรับย้ายไม่ได้หมายความว่าพล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ทำผิด แต่การปรับย้ายเพื่อการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่มีการรังแกใคร หรือเอื้อประโยชน์การปรับย้ายให้กับคนอื่น" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การทำงานที่ผ่านมาของรัฐบาลพยายามทำให้ทุกคดีได้เข้าสู่กระบวนการและได้ข้อยุติตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม โดยไม่ให้เกิดความล่าช้าเกินกว่าเหตุ ดังนั้นจึงมองว่าควรปรับเปลี่ยนบุคคลอื่นให้มาทำหน้าที่บ้าง ซึ่งกรณีเช่นนี้ก็เหมือนกับการปรับย้ายข้าราชการในกระทรวงอื่นๆ รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัด โดยจะต้องมีคณะกรรมการคัดสรร ไม่ใช่รัฐมนตรีจะไประบุตัวข้าราชการที่จะโยกย้ายได้ ซึ่งผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ และการปรับย้ายล่าสุด ก็เป็นการปรับในระนาบเดียวกัน ไม่มีการปรับขึ้น
"การปรับครั้งก่อนหน้านี้บางจุดอาจยังไม่เหมาะสม เนื่องจากยังมีตำแหน่งที่ว่างในบางจุด จึงต้องมีการปรับตำแหน่งไปพลางก่อน เมื่อถึงระยะเวลาที่เหมาะสมจึงมีการปรับให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด เพราะบางครั้งมีหลายตำแหน่งที่อายุราชการตรงกัน และเมื่อมีผู้เกษียณอายุราชการก็ต้องปรับให้เหมาะสมอีกครั้ง" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ใช่การปรับย้ายเพื่อรองรับสถานการณ์หรือปรับเปลี่ยนเพราะเหตุผลทางการเมือง ซึ่งวันนี้ไม่มีการเมือง การลงพื้นที่มาทำการบ้านเพื่อประชาชน ดังนั้นลงพื้นที่วันนี้ขออย่าโยงเป็นประเด็นทางการเมือง พร้อมชี้แจงว่า การลงพื้นที่แต่ละครั้งหากมีคนมาต้อนรับก็ต้องพบปะทักทายเป็นเรื่องปกติ ส่วนที่ประชาชนสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปก็เป็นเรื่องของประชาชน