นายกฯ ลงพื้นที่จ.ระนองเพื่อติดตามแก้ปัญหาสะสมในพื้นที่ ขับเคลื่อนงานตามแผนแม่บทให้ปชช.

ข่าวการเมือง Monday August 20, 2018 13:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เดินทางมายังหอประชุมพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี ศูนย์ราชการจังหวัดระนอง เพื่อพบปะประชาชนและเป็นสักขีพยานพิธีมอบสมุดประจำตัวผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล ลักษณะแปลงรวม ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ "ป่าคลองลำเลียง - ละอุ่น" จำนวน 84 ราย 98 แปลง

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การนำคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ เสมือนเป็นฝ่ายการเมือง เพื่อมาติดตามและแก้ไขปัญหาที่สะสมในพื้นที่มานาน โดยการแก้ปัญหานั้น จะต้องมีแบบแผน และมียุทธศาสตร์ชาติในการพัฒนา เพื่อให้การขับเคลื่อนงานการพัฒนาในด้านต่างๆเกิดความเชื่อมโยง ทั้งนี้ยืนยันว่า รัฐบาลจะหามาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือประชาชาชนให้เข้มแข็งด้วยตนเอง ซึ่งที่ผ่านมาประชาชนฝากความหวังไว้กับทุกรัฐบาล แต่รัฐบาลชุดนี้จะไม่ให้ความหวัง แต่จะมาบอกความจริง ที่มีแผนแม่บทในการทำงาน

"การลงพื้นที่ไม่หวังผลการเมือง แต่มาติดตามความคืบหน้าการทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ให้เกิดความเชื่อมทั้งด้านการท่องเที่ยว และการพัฒนาท่าเรือ พร้อมกันนี้ชื่นชม จ.ระนอง ที่ช่วยกันอนุกรักษ์ธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์"นายกรัฐมนตรี กล่าว

พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่เคยรังแกใคร ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย ปัญหาเก่าดำเนินการแก้ไข แต่ของใหม่ต้องไม่เกิดขึ้นอีก ซึ่งในอนาคต ประชาชนจะต้องเลือก รัฐบาลเข้ามาดำเนินการตามหลักที่ถูกต้อง และต้องคอยตรวจสอบการทำหน้าที่ของพวกเขาเหล่านี้ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการประกาศแก้ปัญหาจราจรให้ได้ภายใน 3 เดือนว่า ส่วนตัวไม่ได้หมายความว่าปัญหาจราจรติดขัดจะต้องแก้ให้สำเร็จภายใน 3 เดือน เพราะในความเป็นจริงไม่มีใครสามารถทำได้ แต่ในระยะเวลา 3 เดือนนี้ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเสนอแผนแก้ปัญหาจราจรเข้ามา โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ ช่วยเสริมการทำหน้าที่ของตำรวจจราจร แต่หากไม่สามารถเสนอแผนเข้ามาได้ตำรวจจราจรต้องถูกคาดโทษ ดังนั้น รัฐบาลชุดนี้จึงเร่งการก่อสร้างรถไฟฟ้าให้เชื่อมต่อการเดินทางทางเรือ เพื่อความสะดวกในการเดินทางด้วยระบบขนส่ง

"ตนเองไม่ได้โง่ ขนาดที่ไม่รู้ว่าระยะเวลา 3 เดือนไม่สามารถแก้ปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ กทม. และปริมณฑลได้ ก่อนขอโทษประชาชนที่มีอารมณ์...บางทีรู้สึกกดดัน แต่ไม่สามารถตอบโต้ใครได้ จึงต้องใช้เวทีนี้ในการชี้แจงพร้อมย้ำส่วนตัวไม่ทะเลาะกับใคร ยกเว้นมีใครมาทะเลาะกับตนเอง...การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้หวังผลทางการเมือง เพราะถ้าหวังผลทางการเมือง คงลงพื้นที่ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามา แต่ในช่วงนั้น รัฐบาลต้องรบและแก้ปัญหาความขัดแข้ง การประท้วงของคนในประเทศ ดังนั้น ขออย่าให้เกิดขึ้นอีก เพราะไม่เช่นนั้นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ทำตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า ซึ่งการเมืองต่อจากนี้ต้องสร้างสรรค์ แม้จะแข่งขันแต่ก็ต้องไม่ทำลาย ไม่เช่นนั้นปัญหาทุกอย่างก็จะกลับมาที่ตนเองอีก ที่สำคัญทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ไม่ว่าคนจน คนรวย ตำรวจ หรือ ทหาร เพราะในประเทศทั้งคนดีและไม่ดี"

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้พบปะทักทายประชาชนพร้อมเยี่ยมชมสินค้าโอทอปในพื้นที่ ก่อนเดินทางไปลงพื้นที่ติดตามผลการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและแพทย์ทางเลือกที่บ่อน้ำพุร้อน พร้อมเยี่ยมชมการพัฒนาท่าเรือและการฟื้นฟูท้องทะเลโดยใช้ปะการังเทียมที่ท่าเรือระนอง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ