นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองตรงกันว่าพรรคภูมิใจไทยมีโอกาสจะได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แน่นอนว่า ที่ผ่านมา การที่พรรคการเมืองที่จะเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลมีจำนวนตัวเลขในสภาที่เข้มแข็ง แต่ในยุคที่ตนเองเป็นหัวหน้าพรรคนั้น การร่วมรัฐบาลจะไม่ใช่เพื่อประโยชน์ทางการเมือง แต่หมายถึงพรรคจะต้องได้ใช้ความรู้ ความสามารถในการพัฒนาประเทศ หรือได้ทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้
"ตรงนี้สำคัญที่สุด หากผิดไปจากนี้ เราขอทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน ไปตรวจสอบรัฐบาลเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติดีกว่า" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าว
สำหรับแนวทางการทำงานของพรรคภูมิใจไทยจะต้องกำหนดนโยบายพรรคที่สามารถจับต้องได้ มีความชัดเจน ทำงานได้จริงและทำได้เลย โดยเบื้องต้นได้หารือกับนักวิชาการและทีมยุทธศาสตร์ไว้แล้ว รอเพียงการปลดล็อคให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมได้
"ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อยากสร้างพรรคจากนโยบายที่ดี ที่มีคนจดจำ ดังนั้น นโยบายของพรรคจึงมีความสำคัญมาก การพัฒนาประเทศ ต้องเริ่มด้วยการวางรากฐานแห่งรัฐให้เข้มแข็ง และต้องทำได้จริง ทำได้เลย การจะทำให้ชาติเข้มแข็งล้วนใช้เวลา ดังนั้น ต้องลงมือปฏิบัติให้เร็ว" นายอนุทิน กล่าว
สำหรับแนวทางในการพัฒนาประเทศต้องการเห็นการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค สร้างงานในท้องถิ่น ส่งผลให้แรงงานและตำแหน่งงานไม่กระจุกตัวเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างกรุงเทพฯ ดังนั้นจะต้องมีการยกระดับจังหวัดต่างๆ ให้ทัดเทียมกัน ซึ่งผลพลอยได้ก็คือการแก้ปัญหาความหนาแน่นและรถติดตามหัวเมืองใหญ่
นอกจากนั้น ยังคิดนโยบายด้านการศึกษา อาทิ การแก้หนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ทั้งการชำระหนี้ตามความสามารถ การพักชำระหนี้ การปลดภาระผู้ค้ำประกัน เพื่อลดภาระและลดแรงกดดันให้กับนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ส่วนที่มีการบอกว่าตนเสนอให้ยกหนี้กับผู้กู้ทุกคน ขอย้ำว่าไม่เคยเสนอแนวทางเช่นนี้ เพราะขัดกฎหมาย