นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงความล่าช้าในการทำงานของฝ่ายสืบสวนสอบสวน กกต.ว่า ถือว่าผิดปกติ เนื่องจากมีสำนวนคดีการร้องเรียน 578 คดีแต่สามารถสืบสวนสอบสวนเอาผิดได้เพียง 10 คดีเท่านั้น โดยหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนคงจะขอดูสำนวนการสืบสวนสอบสวน คดีการร้องเรียนกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของฝ่ายสืบสวนสอบสวน
"หาก กกต.ยังไม่สามารถจัดการเลือกตั้งให้เกิดความบริสุทธิ์ยุติธรรมได้ก็สมควรที่จะพิจารณาตนเอง แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ยุบ กกต.ไป และให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งเอง นอกจากนี้ การทำงานของ กกต.ทั้ง 5 คน โดยส่วนตัวเห็นว่าทำงานล่าช้า ควรที่จะพิจารณาตนเองด้วย" นางสดศรี กล่าว
อย่างไรก็ตาม นางสดศรี กล่าวยืนยันว่า การออกมาระบุดังกล่าวไม่ได้มีการกกดันจากฝ่ายใด และส่วนตัวไม่ได้ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น รวมทั้งนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต. ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย แต่ที่ออกมาเรียกร้องเพราะต้องการให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญในการทำงาน
"การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการชี้ชะตากกต. การออกมาเรียกร้องไม่ได้ต้องการผลงาน แต่ต้องการให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมาย ส่วนตัวไม่ได้รับแรงกดดันจากพรรคการเมืองใด เพราะหากดำเนินการอะไรไม่ได้ กกต.ก็ถูกเพ่งเล็งจากสังคม แต่เวลามีปัญหา กกต.ทั้ง 5 รับฝ่ายเดียว" นางสดศรี ระบุ
ส่วนการพิจารณาใบเหลือง ใบแดงนั้น ไม่ได้มีการตั้งธงว่าจะต้องเกิน 24 คน เพื่อไม่ให้เปิดสภาได้ เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวเพราะกกต.ทำหน้าที่ชั้นแรก
--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--