พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตทางการเมืองของตนเอง ที่ก่อนหน้านี้ระบุว่าจะเปิดเผยในเดือนกันยายนว่า เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับได้รับโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว และเมื่อมีคำสั่ง คสช.ปลดล็อคการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง จากนั้นจะเป็นขั้นตอนเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง นำไปสู่การเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ซึ่งจะต้องได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล ซึ่งสถานการณ์ในช่วงดังกล่าวจะมีผลต่อการตัดสินใจของตนเองว่าจะจำเป็นจะต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญหรือไม่ และหากจะต้องทำหน้าที่จะทำได้อย่างไร ดังนั้นตนเองก็จะพิจารณาและตัดสินใจในช่วงดังกล่าว ซึ่งขณะนี้คงตอบได้เพียงเท่านี้
แต่ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะเป็นไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติและประชาชน นำประเทศไปสู่การปฏิรูปที่เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ เพราะฉะนั้นขอสื่อมวลชนอย่าถามเรื่องนี้บ่อยเกินไป เพราะขณะนี้ขั้นตอนต่างๆ ยังไปไม่ถึงไหน
ส่วนการตัดสินใจเรื่องของการทำไพรมารีโหวตในการเลือกตั้งครั้งนี้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะแก้ไขปัญหาโดยใช้คำสั่งตามมาตรา 44 ซึ่งขณะนี้มีบางพรรคที่มีปัญหา จึงขออย่ามาขัดแย้งกัน เพราะระยะแรก คสช.ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นไปตามกำหนดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอื่นๆ ซึ่งยืนยันว่าจะต้องมีมาตรการดูแลเรื่องเหล่านี้ โดยจะต้องหาวิธีการให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด ในระหว่างที่เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการหารือ
พร้อมกันนี้ต้องมองในเรื่องของความพร้อมของพรรคการเมือง รวมไปถึงความพร้อมของสมาชิกพรรค ว่าระยะแรกควรจะเป็นอย่างไร เพื่อให้มีเวลาสำหรับการเปลี่ยนผ่านไปสู่การปฏิรูปการเมือง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องของการเมือง ก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เพราะขณะนี้ตนเองต้องให้ความสำคัญกับการบริหารราชการแผ่นดินมากกว่า เพราะเรื่องของการเมืองนั้นรัฐบาลและ คสช.ก็พยายามที่จะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ให้ได้ โดยมีหลายเรื่องที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงต้องรับฟังความคิดเห็นจากหลายส่วน เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่ของตนเอง จึงขอให้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดและอย่าสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้น เพราะมีหลายอย่างที่จะต้องแก้ปัญหาให้ได้
ส่วนกรณีนายสุพร อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน ออกมาระบุว่าพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีบางพรรคการเมืองเก็บบัตรประชาชนเพื่อนำไปสมัครสมาชิกพรรคการเมือง โดยอ้างว่าเตรียมความพร้อมก่อนคลายล็อค นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเป็นสิ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ต้องไปพิจารณา ในส่วนของ คสช.ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปติดตาม ตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งถือเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย