พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานการรับฟังการแถลงผลการศึกษาสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติ ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) วิทยาลัยเสนาธิการทหาร วิทยาลัยการทัพ ของทั้ง 3 เหล่าทัพประจำปี 2561 ว่า จากที่ได้ศึกษาการนำเสนอของนักศึกษา ถือว่ามีความครอบคลุมในทุกมิติที่ รัฐบาลทำงานอยู่ ถือเป็นประวัติศาสตร์ที่มีการวางยุทธศาสตร์ชาติ จากนี้คือเดินหน้าตามหัวข้อยุทธศาสตร์ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ และเมื่อมียุทธศาสตร์ชาติแล้ว จากนั้นต้องมีแผนแม่บท ไปสู่แผนงานของแต่ละกระทรวง ซึ่งตนเองได้ให้แนวทางและนโยบายมาตลอด 4 ปี และยุทธศาสตร์ชาติเปรียบเสมือนทางด่วนให้ทุกคนได้เดินไป
"ทุกวันนี้โลกเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ไทยต้องเดินหน้าไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 และต้องสร้างระบบให้เข็มแข็ง นำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงให้ทันกับประเทศอื่นๆ และต้องทำให้ไม่เกิดความขัดแย้ง เพื่อเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย และมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลในอนาคต"
ทั้งนี้ คณะนักศึกษาฯ ได้เสนอแนวทางยุทธศาสตร์เฉพาะ 6 ด้าน ได้แก่ ด้านความมั่นคงแห่งชาติและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม พลังงาน ด้านทุนมนุษย์และคุณภาพชีวิต ด้านความเป็นธรรมในสังคม ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และด้านการเมืองการปกครองและระบบบริหารจัดการภาครัฐ พร้อมทั้งได้เสนอแนวทางในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้แบ่งแยกคนจากฐานะทุกคนมีศักดิ์ศรีความเท่าเทียมกัน และรัฐบาลมุ่งดูแลผู้ที่มีรายได้น้อย ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นด้วยการกระจายงบประมาณให้เหมาะสม ดูแลในทุกพื้นที่ และเน้นสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานให้เกิดความเท่าเทียม
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาของประเทศบางอย่างยังติดขัด จึงต้องใช้อำนาจตามมาตรา 44 และยืนยันไม่ได้เป็นการใช้คำสั่งเพื่อเอื้อประโยชน์ หรือต่อท่ออำนาจให้ใคร ขอบางกลุ่มอย่าบิดเบือนข้อมูล โดยขอให้ใช้โซเชียลมีเดียในทางที่ถูกต้อง ทุกคนสามารถหาข้อมูลในทุกเรื่องได้จากอินเตอร์เน็ต เพื่อเพิ่มความรู้ ขณะที่การเรียนการสอน ก็ต้องปรับใหม่ โดยในอนาคตจะมีการตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งที่ดำเนินการช้า เพราะติดอยู่ที่การตั้งชื่อกระทรวง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญคือการปรับความคิด การทำงานของหน่วยงานราชการ และต้องดูว่าจะทำอย่างไรให้กระจายรายได้ลงสู่ระดับล่างให้มากขึ้น รัฐบาลเดินหน้าโครงการพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเดินหน้าแก้ปัญหาสินค้าเกษตร รวมถึงเป็นการเปิดช่องทางเชื่อมโยงกับนานาประเทศ และดึงนักลงทุนต่างชาติมาลงทุนมากขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการใช้งบประมาณในอนาคต หากนักการเมืองหาเสียงและไปสัญญาว่าจะให้ประชาชนนั้น ต้องระวังและศึกษาข้อมูล พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ ที่จะเป็นตัวกำหนดการใช้งบประมาณให้เกิดความเหมาะสมและคุ้มค่า ห้ามใช้เพื่อสร้างความนิยม
สำหรับการแถลงแนวทางการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนด้วยยุทธศาสตร์ชาติในครั้งนี้ เป็นข้อเสนอแนะที่คณะนักศึกษาพยายามบูรณาการยุทธศาสตร์ทั้ง 6 ด้านเข้าด้วยกัน เพื่อให้มีพลังในเชิงผลลัพธ์ ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่มีการลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ทิ้งภาคส่วนใดไว้ข้างหลัง พ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง เป็นประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างยั่งยืนตลอดไป