นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นว่า กฎหมายได้ให้อำนาจกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการออกหลักเกณฑ์ควบคุมเรื่องนี้ไว้แล้ว โดย กกต.จะต้องไปกำหนดวิธีการว่าจะหาเสียงอย่างไร เพราะการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องอันตราย อาจจะกระทบต่อประชาชนที่ไม่ทราบว่าข้อมูลแล้วแชร์ต่อๆ กันจนเป็นการทำผิดกฎหมายเสียเองได้ ถือเป็นดาบสองคม ประชาชนจึงต้องระวังการแชร์ข้อมูลในช่วงของการหาเสียงให้มาก เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของนักการเมือง
ประธาน กรธ. กล่าวว่า กกต.ไม่ควรไปจำกัดการหาเสียง แต่ควรกำหนดกติกาให้ชัดเจน โดยเฉพาะเรื่องค่าใช้จ่ายในการหาเสียง เพราะมีทั้งเพจที่ต้องจ่ายเงินและไม่ต้องจ่ายเงิน ถ้าจะคิดรวมเป็นค่าใช้จ่ายหาเสียงก็ต้องคิดให้เหมือนกันทั้งหมด
"ผมเชื่อว่า กกต.คงต้องปวดหัวกับเรื่องนี้ ส่วนปัญหาเพจปลอมต่างๆ ควรมีหน่วยงานขึ้นมาคอยรับแจ้งและคอยตรวจสอบให้สั่งลบข้อมูลที่ผิดกฎหมายออกไปได้ เพราะถ้ารอให้ประชาชนไปแจ้งก็คงเป็นเรื่องยาก แต่คงไม่ถึงขั้นต้องไปกำหนดในร่างพระราชบัญญัติความมั่งคงไซเบอร์ เพราะเป็นเรื่องที่บังคับใช้เฉพาะช่วงการเลือกตั้งเท่านั้น" นายมีชัย กล่าว
ประธาน กรธ. กล่าวว่า การใช้อำนาจของรัฐบาลในช่วงหาเสียงเลือกตั้งนั้นยังสามารถใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ เพราะไม่ใช่รัฐบาลรักษาการเหมือนช่วงปกติ เช่นเดียวกับการใช้มาตรา 44 ของ คสช.ที่กฎหมายไม่ได้ห้ามไว้ เนื่องจากรัฐบาลและ คสช.ยังต้องเดินหน้าต่อไปไม่ให้ประเทศหยุดชะงัก แต่เชื่อว่า คสช. และรัฐบาลจะใช้อำนาจตามความเหมาะสม เพราะการมีอำนาจอยู่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องใช้อย่างไม่สุจริตเสมอไป แต่ทั้งนี้อำนาจที่ใช้จะต้องไม่สร้างความได้เปรียบเสียเปรียบในช่วงเลือกตั้ง เพราะมีกฎหมายห้ามไว้เช่นต้องไม่ใช้เงินงบประมาณของรัฐไปหาเสียง
ในวันนี้นายมีชัย ได้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญนัดสุดท้ายก่อนจะครบกำหนดการทำหน้าที่ พร้อมได้ได้จัดพิมพ์หนังสือ "ความในใจของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 2560" โดยเป็นเนื้อหาที่กรธ.ทุกคนบันทึกเรื่องราวถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือในการทำหน้าที่ของ กรธ. โดยมีความหนา 234 หน้า