ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) แก้ไขคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 53/2560 ลงวันที่ 22 ธันวาคม 2560 เพื่อให้มาตรการเกี่ยวกับพรรคการเมืองได้ผลในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมทั้งเพื่อให้พรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นก่อนแล้ว และพรรคการเมืองที่จัดตั้งขึ้นใหม่ สามารถดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมว่าด้วยพรรคการเมืองได้อย่างถูกต้องครบถ้วน ไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ หรือยุ่งยากสับสน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของ คสช.จึงมีคำสั่งที่มีสาระสำคัญ คือ 1.การจัดตั้งพรรคการเมือง กำหนดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท และแจ้งให้นายทะเบียนทราบภายใน 180 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ, จัดให้มีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามจำนวนไม่น้อยกว่า 500 คนชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองสำหรับปี 61 ภายใน 180 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนทราบ พร้อมด้วยหลักฐานแสดงการชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองภายใน 15 วันนับแต่วันพ้นระยะเวลาชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองดังกล่าว, จัดให้มีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามชำระค่าบำรุงพรรคการเมืองให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 5,000 คนภายใน 1 ปีนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้ได้จำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 คนภายใน 4 ปีนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ และให้นายทะเบียนสมาชิกแจ้งให้นายทะเบียนทราบตามรายการและวิธีการที่นายทะเบียนกำหนด
กรณีที่พรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด คณะกรรมการอาจมีมติให้ขยายระยะเวลาดังกล่าวออกไปได้อีกหนึ่งเท่าของระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละเรื่อง เมื่อครบระยะเวลาที่มีมติให้ขยายแล้วแต่กรณี ให้พรรคการเมืองที่ไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จสิ้นสภาพลง ทั้งนี้ในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติไม่ครบถ้วนจะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้
การวินิจฉัยเรื่องใด ๆ ตามมาตรานี้ที่มีผลกระทบต่อพรรคการเมืองให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการที่จะวินิจฉัย ในกรณีที่พรรคการเมืองไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยได้ภายใน 60 วันนับแต่วันได้รับทราบคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ
2.การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองให้แจ้งให้คณะกรรมการทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 วัน และเมื่อได้แจ้งเรื่องดังกล่าวแล้ว ให้ถือว่าได้รับอนุญาตจาก คสช.ได้แก่ เลือกตั้งหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค เหรัญญิกพรรค นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรค, จัดตั้งสาขาพรรคหรือแต่งตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัด, รับสมาชิกพรรค, จัดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง และสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค, มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, กิจกรรมทางการเมืองอื่นที่ คสช.กำหนด
กรณีต้องจัดประชุมใหญ่เพื่อการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง ถ้าองค์ประชุมของที่ประชุมใหญ่ ประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรคไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคเท่าที่มีอยู่ และมีสมาชิกของพรรค ทั้งนี้ มีจำนวนรวมกันทั้งหมดไม่น้อยกว่า 250 คนแล้ว ให้ถือเป็นองค์ประชุมดำเนินการดังกล่าวได้ โดยให้ดำเนินการแล้วเสร็จก่อนครบกำหนด 90 วันนับแต่วันที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ในราชกิจจานุเบกษา
สำหรับการดำเนินการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1 ปีนับแต่วันที่มีการประกาศ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 ในราชกิจจานุเบกษา
พรรคการเมืองใดยังดำเนินการตามที่กำหนดไม่ครบถ้วน ห้ามมิให้จัดสรรเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองให้แก่พรรคการเมืองนั้น
3.การทำไพรมารี่โหวต กำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ประกอบด้วย กรรมการบริหารพรรคจำนวน 4 คน และตัวแทนสมาชิกที่พรรคการเมืองเลือกจำนวน 7 คน มีหน้าที่และอำนาจในการพิจารณาและเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคให้ความเห็นชอบ โดยให้พิจารณาจากสมาชิกที่ยื่นความจำนงด้วยตนเองและผู้ที่สมาชิกเสนอ ให้คำนึงถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งจากภูมิภาคต่างๆ และความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิงด้วย และให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งรับฟังความคิดเห็นของหัวหน้าสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและสมาชิกที่เกี่ยวข้อง นำมาประกอบการพิจารณาในการสรรหาด้วย, กรณีที่คณะกรรมการบริหารพรรคเห็นชอบบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเสนอ ให้หัวหน้าพรรคออกหนังสือรับรองเพื่อประกอบการสมัครรับเลือกตั้ง โดยการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อให้พรรคจัดทำบัญชีรายชื่อด้วย
ถ้าคณะกรรมการบริหารพรรคไม่ให้ความเห็นชอบบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเสนอ ให้คณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งดำเนินการสรรหาบุคคลอื่นมาแทน หากคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งยืนยันเสนอชื่อบุคคลเดิมและคณะกรรมการบริหารพรรคไม่เห็นชอบด้วย ให้คณะกรรมการบริหารพรรคและคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งประชุมร่วมกัน เมื่อมีมติเป็นประการใดให้ดำเนินกำรไปตามมตินั้น
ทั้งนี้ การลงมติดังกล่าวให้กระทำโดยวิธีลงคะแนนลับ และภายใน 7 วันนับแต่วันที่คณะกรรมการบริหารพรรคได้ให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง หรือนับแต่วันที่มีมติเห็นชอบรำยชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งของที่ประชุมร่วมกัน ให้พรรคการเมืองเปิดเผยรายชื่อผู้ได้รับการสรรหาเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งโดยการประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไป
4.ห้ามหาเสียง พรรคการเมืองจะดำเนินการประชาสัมพันธ์หรือติดต่อสื่อสารกับผู้ดำรงตำแหน่งใดๆ ภายในพรรคการเมืองและสมาชิกของพรรคของตน โดยวิธีผ่านทางเทคโนโลยีสารสนเทศหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ก็ได้ แต่การดำเนินการนั้นต้องไม่มีลักษณะเป็นการหาเสียง ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งและ คสช.อาจกำหนดลักษณะต้องห้ามของการประชาสัมพันธ์ หรือการติดต่อสื่อสารที่จะมีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชนหรือสั่งให้มีการระงับการดำเนินการดังกล่าวก็ได้
ทั้งนี้ ในกรณีที่เห็นสมควร นายกรัฐมนตรีอาจเสนอให้ คสช.แก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้ และคำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจนุเบกษาเป็นต้นไป