นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคว่า พรรคจะส่งหนังสือถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอจัดประชุมใหญ่ของพรรค ปชป.ในวันที่ 26 ก.ย.61 พร้อมเตรียมเปิดการหยั่งเสียงเพื่อสรรหาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
"วันนี้น่าจะลงนามในหนังสือถึง กกต.เพื่อแจ้งขอจัดประชุมใหญ่ในวันพุธที่ 26 กันยายน 2561 ซึ่งต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วัน และตามข้อบังคับพรรคต้องแจ้งสมาชิกอย่างน้อย 7 วัน" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ในวันนี้ ปชป.ได้จัดการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค หลังจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งคลายล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้
สำหรับการประชุมกรรมการบริหารในวันนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เพื่อพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ปลดล็อคให้พรรคการเมืองได้ทำบางกิจกรรมได้ โดยขณะนี้พรรค ปชป.ได้ดำเนินการเรื่องการหาสมาชิกได้ตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว คือ หาสมาชิกให้ได้ 500 คนภายใน 180 วัน จากนั้นให้หาสมาชิกให้ได้ 5,000 คนภายใน 1 ปี และจะต้องหาสมาชิกให้ได้ 10,000 คนภายใน 4 ปี
นอกจากนี้ยังดำเนินการเรื่องทุนประเดิม 1 ล้านบาท และจะนัดประชุมใหญ่ในวันที่ 26 ก.ย.61 เพื่อพิจารณาแก้ไขข้อบังคับ อุดมการณ์พรรค นโยบายพรรค ให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ โดยยังไม่มีการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะรอออกระเบียบพรรคเพื่อให้มีการหยั่งเสียงก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ของพรรคที่กฎหมายไม่ได้กำหนดไว้
ส่วนการสมัครเป็นหัวหน้าพรรคนั้นจะต้องมีผู้รับรองเป็นอดีต ส.ส.จำนวน 20 คน และสมาชิกภาคละ 500 คน แต่ถ้าเป็นคนนอกจะเพิ่มเงื่อนไขอีกเท่าตัวคือ อดีต ส.ส.จำนวน 40 คน และสมาชิกภาคละ 1,000 คน โดยคาดว่าจะได้ตัวหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ราวเดือน พ.ย.61
"ตามที่มีชื่อสมัครได้ทุกคนไม่น่าจะมีปัญหา" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การที่ คสช.มีคำสั่งตามมาตรา 44 เพื่อคลายล็อคให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้นั้น เป็นเพียงการอำนวยความสะดวกในเรื่องงานด้านธุรกิจเท่านั้น ไม่ได้เปิดโอกาสให้ทำงานการเมือง เพราะการจำกัดไม่ให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็เท่ากับ คสช.ช่วยพรรคการเมืองที่ซื้อเสียง ไม่ใช่ชนะการเลือกตั้งมาจากประชาชนโดยบริสุทธิ์
ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวไม่สอดคล้องต่อธรรมชาติการทำงานการเมือง เพราะการรับสมัครสมาชิกจะมีข้อจำกัด ไม่สามารถที่จะจัดกิจกรรมที่จะโน้มน้าวให้ประชาชนที่ต้องการเข้ามาสมัครเป็นสมาชิกอย่างแท้จริง สะท้อนให้เห็นว่า คสช.ไม่เข้าใจการทำงานการเมือง เพราะงานธุรการและงานการเมืองไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และยังมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อพรรคการเมือง โดยมองว่าพรรคการเมืองเป็นเพียงการรวมตัวเพื่อแสวงหาอำนาจโดยผ่านกระบวนการเลือกตั้ง
"คำสั่งดังกล่าวเป็นแค่ให้งานทางธุรการเดินไปได้ แต่ไม่สามารถทำงานการเมืองได้ ไหนๆ ก็จะปฏิรูปการเมืองแต่กลับมีข้อจำกัดที่ส่งผลดีต่อพรรคการเมืองที่ซื้อเสียง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว