นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า การดำเนินงานของ กกต.ภายหลังประกาศ กกต.เรื่องจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี และจำนวนเขตเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัดลงประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้แล้วในวันนี้แล้ว หลังจากนี้ภายใน 3 วัน กกต.กลาง จะแจ้งให้ กกต.จังหวัด ดำเนินการแบ่งเขตตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแบ่งเขตเลือกตั้งตามความเหมาะสม
หลังจากนั้น กกต.จังหวัด จะต้องจัดทำรายละเอียดเรื่องเขตเลือกตั้งให้เสร็จภายใน 14 วัน หรือภายในวันที่ 3 ต.ค.61 แล้วประกาศให้ประชาชนในพื้นที่รับทราบและรับฟังความคิดเห็นเป็นเวลา 10 วัน จากนั้น กกต.จังหวัด มีเวลารวบรวมความคิดเห็นและรูปแบบให้เสร็จแล้วส่งกลับมายัง กกต.กลางภายใน 3 วัน จากนั้น กกต.กลาง จะใช้เวลาพิจารณาให้ได้ข้อยุติอีก 20 วัน หรือภายในวันที่ 5 พ.ย.61 เพื่อลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยขั้นตอนนี้จะใช้เวลารวมทั้งสิ้น 55 วัน
"กกต.จะใช้เวลาดำเนินการเรื่องนี้รวม 55 วัน ซึ่งอยู่ในกรอบเวลา 60 วันที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพื่อให้พรรคการเมืองมีเวลาดำเนินการเรื่องการคัดเลือกตัวผู้สมัครอีก 30 วัน" นายอิทธิพร กล่าว
สำหรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นครั้งนี้ มีจำนวน ส.ส.ทั้งสิ้น 350 คน และเขตเลือกตั้ง 350 เขต ลดลงจากเดิมที่มีจำนวน ส.ส. 375 คน และเขตเลือกตั้ง 375 เขต โดยมีจังหวัดที่ถูกปรับลดจำนวน ส.ส.และเขตเลือกตั้งลง 23 จังหวัด ซึ่งกรุงเทพมหานครมีจำนวน ส.ส. 30 คน และเขตเลือกตั้งมากสุด 30 เขต ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งก่อนที่มีจำนวน ส.ส. 33 คน และเขตเลือกตั้ง 33 เขต
ทั้งนี้ กกต.ได้ประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง และจำนวนเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด โดยยึดตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธ.ค.60 ที่มีจำนวน 66,188,503 คน ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ.62 ที่ถือเป็นการประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง โดยจำนวนราษฎรเฉลี่ย 189,110 คนต่อ ส.ส.หนึ่งคน เพิ่มขึ้นจากเดิมเมื่อปี 2557 ที่จำนวนราษฎรเฉลี่ย 171,884 คนต่อ ส.ส.หนึ่งคน
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงระเบียบเรื่องการหาเสียงว่า ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่างดำเนินการยังไม่เสร็จเรียบร้อย โดย กกต.จะพิจารณาแนวทางที่ให้ผู้ปฏิบัติสามารถดำเนินการได้ และคงจะหลีกเลี่ยงเรื่องการหาเสียงทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไม่ได้ โดยแนวทางการหาเสียงนั้นต้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสี และไม่ขัดต่อกฎหมาย