"ทักษิณ"แถลงการณ์ย้ำจงรักภักดีสถาบันกษัตริย์/กลับไทยแน่-ไม่เกี่ยวจัดโผ

          พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์ยืนยันถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และพร้อมจะเดินทางกลับมายังประเทศไทยในช่วงกลางเดือน ก.พ.-เม.ย.51 เพื่อต่อสู้คดีทุจริตต่าง ๆ โดยปฏิเสธว่าไม่ได้เข้าไปก้าวก่ายการจัดตั้งรัฐบาล หรือการจัดโผคณะรัฐมนตรีอย่างที่เป็นข่าว 
          อดีตนายกรัฐมนตรีได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า ตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมามีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
          "ผมจะไม่มีวันเสื่อมคลายในการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ต่อราชบัลลังก์ หากผมผิดคำปฏิญาณสาบานตนขอให้ผมและครอบครัวมีอันเป็นไป ไม่มีความเจริญ และไม่มีความสุขในชีวิต"นายนพดล ปัทมะ สมาชิกพรรคพลังประชาชน ในฐานะทนายความของครอบครัวชินวัตร เผยแพร่แถลงการณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ 
          ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร กล่าวว่า แถลงการณ์ดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงื่อนไข 5 ข้อที่แกนนำพรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินใช้ต่อรองในการเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ พปช. ซึ่งมีการกำหนดเป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำคัญคือ จะต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
          นอกจากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ยังยืนยันที่จะเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อต่อสู้คดีต่างๆ ตามกระบวนการยุติธรรมในช่วงกลางเดือน ก.พ.-เม.ย.51 โดยจะไม่หลบเลี่ยงเพื่อหนีคดี
          "ท่านก็พร้อมที่จะกลับมาช่วงกลางเดือนกุมภาฯถึงเมษาฯ และยินดีให้กระบวนการยุติธรรมสามารถตรวจสอบได้ จะไม่หลบหนีหรือหลีกเลี่ยง" นายนพดล กล่าว
          ที่ปรึกษากฎหมายครอบครัวชินวัตร กล่าวว่า อดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล ตลอดจนการกำหนดรายชื่อบุคคลที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ เพราะได้ประกาศวางมือทางการเมืองไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน(พปช.) และ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค ที่จะดำเนินการ ไม่เกี่ยวข้องกับอดีตนายกรัฐมนตรี
          "ผมไม่ได้คุยเรื่องนี้กับท่าน ท่านไม่เกี่ยวข้องกับพรรคพลังประชาชน ถ้าคุยเดี๋ยวจะหาว่าเป็นนอมินีสั่งการได้ หรือเอาโผ ครม.ไปให้ดูที่ฮ่องกง" นายนพดล ตอบข้อซักถามกรณีที่มีข่าวว่าแกนนำ พปช.จะเดินทางไปร่วมฉลองปีใหม่กับอดีตนายกรัฐมนตรีที่ประเทศฮ่องกง
          ส่วนกรณีที่มีข่าวว่านายนพดลได้รับคาดหมายว่าจะเข้ามาเป็น รมว.ต่างประเทศนั้น นายนพดล กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับทาบทาม แต่ก็มีความพร้อมที่จะทำงานในตำแหน่งดังกล่าวหากทางพรรคพิจารณาเห็นว่าตนเองมีศักยภาพเพียงพอ