พปช.ระบุแนวทางชท.-พผ.ไม่สมควรใช้ต่อรองทางการเมือง เดินหน้าเจรจานโยบาย

ข่าวการเมือง Friday December 28, 2007 16:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          พรรคพลังประชาชน(พปช.) ถลงการณ์ประกาศจุดยืนต่อแนวทางที่พรรคชาติไทย(ชท.)และพรรคเพื่อแผ่นดิน(พผ.)เสนอ 5 เงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยยืนยันว่าพรรคยึดมั่นแนวทางต่าง ๆ ดังกล่าวอยู่แล้ว แต่เห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะนำมาเป็นประเด็นในการต่อรองทางการเมือง โดยพรรคจะเดินหน้าเจรจาในประเด็นนโยบายและแนวทางทางการเมืองที่สอดคล้องกันกับทั้งสองพรรคเพื่อเป็นหลักในการพิจารณาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล
"จุดยืนที่พรรคแถลงไม่เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล และไม่ควรนำมาเป็นเงื่อนไขในการต่อรองทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ การจัดตั้งรัฐบาลขึ้นกับนโยบายและแนวทางการทำงานของพรรคว่าจะสอดคล้องกันหรือไม่
เพราะฉะนั้นเรื่องตั้งรัฐบาลนั้นพรรคจะต้องหารือกับพรรคอื่นนอกเหนือจาก 3 พรรค พรรคที่เหลือต้องคุยเรื่องนโยบายที่สร้างสรรค์และสอดคล้องต้องกัน จึงจะพิจารณาว่าจะตั้งรัฐบาลร่วมกันหรือไม่" น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค พปช.กล่าว
สำหรับเงื่อนไขที่ทาง ชท.และ พผ.แถลงคืนวานนี้ได้แก่ 1.ต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการทำให้กระจ่างว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันสูงสุด 2.พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นรัฐบุรุษอาวุโสสูงสุดที่ประชาชนให้ความเคารพ จึงต้องรักษาไว้ไม่ก้าวล่วง 3.ต้องไม่มีการล้างแค้น 4.พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องกลับมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยไม่มีการแทรกแซงก้าวก่าย และ 5.จะต้องไม่มีการยุบยกเลิกหรือแตะต้อง คตส.เพื่อรักษาความปรองดองของคนในชาติ
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ทั้ง 5 ประเด็นเป็นเรื่องที่พรรคยึดเป็นหลักปฏิบัติอยู่แล้ว โดยเฉพาะการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ถือเป็นเรื่องที่ผูกพันอยู่ในหัวใจคนไทยทุกหมู่เหล่าที่จะจงรักภักดีเทิดทูนเหนือหัว องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนชาวไทย
พรรคการเมืองทุกพรรคและคนไทยทุกหมู่เหล่ามีหน้าที่ปกป้องสถาบัน ไม่ให้มีสิ่งใดมาระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท พระองค์ทรงอยู่เหนือการเมืองและความขัดแย้งทั้งปวง พรรคพลังประชาชนจะปกป้องไม่ยอมให้บุคคลใดหรือพรรคการเมืองใดกระทำการอันแสดงถึงความไม่จงรักภักดี และจะรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ไว้จนกว่าชีวิตจะหาไม่
ส่วนกรณีของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษนั้น พรรคเห็นว่าบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งองคมนตรีนั้น พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งตามพระราชอัธยาศัย คณะองคมนตรีมีหน้าที่ถวายความเห็นต่อพระมหากษัตริย์ในพระราชกรณียกิจทั้งปวง ที่ทรงปรึกษา องคมนตรีทุกท่านจึงต้องอยู่ในสถานะที่สูงกว่าทางการเมือง และจะต้องเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด ทุกพรรคการเมืองต้องให้ความเคารพคณะองคมนตรีทุกท่าน
"พรรคพลังประชาชนให้ความเคารพพล.อ.เปรม และองคมนตรีทุกท่าน และจะไม่ยอมให้ใครนำสถาบันองคมนตรีไปกล่าวอ้างในทางที่มิชอบโดยเด็ดขาด"แถลงการณ์ระบุ
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า พรรคฯเห็นว่าเมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญปี 50 แล้ว บุคคลทั่วไปย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย การใช้อำนาจที่ล่วงละเมิดกำหนดกฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมืองก็จะต้องถูกตรวจสอบโดยองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญและประชาชน ซึ่งนโยบายของพรรคจะยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสร้างความปรองดองกับทุกฝ่ายเพื่อให้ประเทศชาติลุล่วงเจริญก้าวหน้าไปด้วยดี
และกรณีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของไทยโดยปราศจากการแทรกแซงอำนาจของศาล พรรคฯ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนไทยคนหนึ่ง สิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่มีบุคคลใดอยู่เหนือกฎหมาย
ขณะที่ประเด็นเรื่องไม่ยกเลิก คตส.พรรคเห็นว่ามีหากการกระทำของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความผิดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีอำนาจดำเนินคดีสอบสวนได้ ดังนั้นทุกคดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ คตส.จะต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการยุติธรรม การยกเลิก คตส.จึงไม่เป็นประโยชน์แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ
"พรรคพลังประชาชน ยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มิได้เกี่ยวข้องหรือเป็นสมาชิกของพรรคแต่อย่างใด พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงคนไทยคนหนึ่ง ย่อมได้รับความคุ้มครองสิทธิตามรัฐธรรมนูย ซึ่งพรรคการเมืองทุกพรรคควรจะต้องคุ้มครองให้ความเป็นธรรมตามกฎหมายกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย" เลขาธิการ พปช.ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ