นักวิเคราะห์กล่าวว่า อินเดียจะต้องประเมินสถานการณ์ทางด้านความมั่นคงของประเทศใหม่ และแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้นต่อปากีสถานในภาวะผันผวนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในภูมิภาคเอเชียใต้ ภายหลังจากเกิดเหตุลอบสังหารนางเบเนซีร์ บุตโต ผู้นำฝ่ายค้านของปากีสถาน
อินเดียเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในจุดที่รายล้อมไปด้วยภาวะไร้เสถียรภาพของประเทศเพื่อนบ้าน ตั้งแต่อัฟกานิสถานซึ่งมีปัญหาเรื่องกลุ่มกบฎตาลีบันไปจนถึงศรีลังกาที่มีสถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศ ตลอดจนบังคลาเทศที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน และเนปาลที่อยู่ในระหว่างกระบวนการสร้างสันติภาพกับกลุ่มกบฎลัทธิเหมา โดยการเสียชีวิตของนางบุตโตก็เป็นอีกตัวอย่างของภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาคที่จะต้องมีการแก้ไข
ดังนั้น อินเดียจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนนโยบายของตนเองให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ซี. ราชา โมฮาน ศาสตราจารย์ภาคการเมืองของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนานยาง ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า อินเดียอยู่ห่างไกลจากการรับมือกับผลพวงต่างๆที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งระดับโครงสร้างที่หยั่งลึกในปากีสถาน ซึ่งอยู่ในภาวะที่ไร้ทิศทางและอันตรายเพราะไม่สามารถควบคุมกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาได้
นางบุตโต ผู้นำฝ่ายค้านของปากีสถาน ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งนายกฯมาแล้ว 2 สมัย ถูกสังหารด้วยมือปืนและระเบิดพลีชีพเมื่อวานนี้ ขณะที่เธอเพิ่งจะเสร็จสิ้นการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งที่จะจัดขึ้นในวันที่ 8 ม.ค.
นายมันโฮมัน ซิงห์ นายกฯอินเดีย กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจมากกับเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยอินเดียได้สั่งให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเฝ้าระวังเหตุการณ์ตามแนวชายแดนที่ติดกับปากีสถาน
นายกฯอินเดียกล่าวว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเป็นบทเตือนใจเราถึงอันตรายที่กลุ่มก่อการร้ายได้กระทำและส่งผลกระทบต่อสันติภาพ ความเจริญ และความเป็นอยู่ที่ดีในภูมิภาค
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--