นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานเปิดงานแถลงผลงาน 4 ปีของ สนช. โดยระบุว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สนช.ทำหน้าที่สำคัญตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยมีผลงานประจักษ์แบ่งเป็น 4 ด้าน ได้แก่ ด้านนิติบัญญัติ การดูแลประชาชน การต่างประเทศ และการส่งเสริมและเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ สนช.ได้จัดนิทรรศการแสดงผลงานไว้ที่บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา 1
ด้านนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.กล่าวถึงรายละเอียดผลงานทั้ง 4 ด้านว่า ในส่วนของด้านนิติบัญญัติ สนช.มีกฎหมายเข้าสู่การพิจารณา 347 ฉบับ มีร่างกฎหมายที่เห็นชอบประกาศใช้เป็นกฎหมาย 315 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว 306 อยู่ระหว่างรออีก 9 ฉบับ นอกนั้นอยู่ระหว่างบรรจุระเบียบวาระ 6 ฉบับ ซึ่งได้มีการดำเนินการตามมาตรา 77 เกี่ยวกับการรับฟังความเห็นจากประชาชนตามรัฐธรรมนูญทุกประการ
ส่วนด้านการต่างประเทศ นายสุรชัย กล่าวว่า สนช.มีเป้าหมายในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สร้างความเข้าใจอันดีถึงสถานการณ์ระหว่างประเทศ สร้างความเข้าใจสถานการณ์การเมืองในประเทศ รวมถึงได้ร่วมกิจกรรมประชุมและพบปะหารือบุคคลสำคัญ อันเป็นผลให้ไทยยังคงสถานะในเวทีต่างประเทศ
ขณะที่การดูแลประชาชน นายสุรชัย กล่าวว่า ได้ดำเนินโครงการ สนช.พบประชาชน ซึ่งมีเรื่องร้องเรียน 10,523 เรื่อง เช่น ปัญหาที่ดินแหล่งน้ำ การเกษตร การคมนาคม สิ่งแวดล้อม และสังคม โดยประสานแก้ปัญหาจนเป็นที่น่าพอใจ ขณะที่มีเรื่องร้องเรียนผ่านกรรมาธิการ สนช.รวม 948 เรื่อง พิจารณาแล้วเสร็จ 832 เรื่อง โดยส่งผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา
ด้านส่งเสริมและเผยแพร่ระบอบประชาธิปไตย นายสุรชัย กล่าวว่า สนช.ได้จัดโครงการต่างๆ ให้เยาวชนและประชาชนร่วม 4 โครงการ ขณะที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานรัฐบาลผ่านกระทู้ถาม 87 กระทู้ เช่นเรื่อง การขอพักชำระหนี้เกษตร และการแก้ไขปัญหาขยะพิษ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่พิจารณาศึกษาเสนอแนะรวบรวมความเห็นประชาชนเพื่อการจัดทำรัฐธรรมนูญ และรวบรวมความเห็นเพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
กรณีที่ยังมีกฎหมายหลายฉบับยังไม่ได้รับการพิจารณา เช่น ร่างพ.ร.บ.ภาษีและสิ่งปลูกสร้าง นายสุรชัย กล่าวว่า สนช.ออกกฎหมายวางรากฐานปฏิรูปประเทศ เป็นเรื่องที่ต้องทำต่อไป และขอไม่ตอบว่าจะมี สนช.คนใดจะไป ส.ว.หรือทำงานการเมืองต่อ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน