นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าหลังปีใหม่คงจะทราบว่า พรรคใดจะได้เป็นรัฐบาล เพราะต้องทราบก่อนที่สภาจะเปิด เพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรและเลือกนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หากรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งน้อยกว่า 30 เสียง จะส่งผลกระทบต่อการทำงาน
"ถ้ารวมกันโดยคะแนนปริ่มๆ การทำงานจะลำบาก เพราะว่าถ้าไปตั้งรัฐมนตรีจาก ส.ส.จำนวน ส.ส.ก็จะหายไป ถึงแม้ว่ารัฐธรรมนูญจะไม่ให้พ้นจาก ส.ส. แต่ก็ห้ามไม่ให้ลงคะแนนในเวลาที่เขาอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถึงตอนนั้นก็ลำบาก สมมติว่าตั้งมาสัก 30 คน เวลาลงมติก็หายไป 30 เสียง ดังนั้น เวลาจะตั้งรัฐบาลต้องคำนึงถึงตรงนี้ด้วย ต้องบวกเอาไว้เผื่อให้พอว่า ถ้าเป็นรัฐมนตรีแล้วไม่ได้มาโหวต จะยังชนะอยู่ ฉะนั้น ต้องนับกันให้ดี ๆ เว้นแต่ตั้งรัฐมนตรีจากคนนอก ถึงจะไม่มีปัญหาตอนโหวต" นายมีชัยกล่าว
สำหรับกรณีที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจ ส.ส.ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีจะทำให้เกิดกรณีลงมติสวนทางกับมติพรรคหรือไม่นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์กรณี กลุ่มงูเห่าอยู่แล้ว เชื่อว่าการเจรจาคงต้องผูกมัดกันพอสมควรที่จะทำให้เกิดความมั่นใจได้
ส่วนรัฐบาลชุดใหม่จะมีเสถียรภาพและอยู่จนครบวาระหรือไม่นั้น นายมีชัย กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่พรรคการเมืองต่างบอกว่าคงอยู่กันไม่ยาว จึงคิดว่าคงเป็นเช่นนั้น ก็ไม่เป็นไร หากอยู่ไม่ครบวาระก็มาเลือกตั้งกันใหม่ อย่างไรก็ตาม เห็นว่าสิ่งแรกที่รัฐบาลใหม่จะต้องทำ คือ ต้องทำให้เกิดความสามัคคี ซึ่งหากทำได้เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับบ้านเมืองและเป็นประโยชน์กับทุกคน
นายมีชัย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีแนวโน้มรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ แต่ควรต้องมีการศึกษาอย่างเป็นระบบ ให้ครอบคลุมทั้งหมด เพราะถ้าหยิบเฉพาะประเด็นใดประเด็นหนึ่ง หรือบางประเด็นที่ไม่ชอบ อาจจะเกิดปัญหากระทบต่อเรื่องอื่นได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายตามมา ดังนั้น ควรจะใช้เวลาระยะหนึ่งศึกษากันให้ดีแล้วค่อยแก้ไข
--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.0-2253-5050 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--