พันตำรวจเอก จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงเรื่องกฏหมายเลือกตั้งว่า จุดมุ่งหมายของการปฏิรูประบบพรรคการเมือง เพราะต้องการยกระดับมาตรฐานพรรคการเมืองสมัยใหม่ให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยเริ่มต้นจากกำหนดให้การจัดตั้งพรรคการเมือง ต้องมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500 คน มีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากผู้สมัคร ส.ส. จัดตั้งสาขาพรรคในแต่ละภาคและต้องมีทุนประเดิมพรรค 1 ล้านบาท รวมถึงการบริจาคเงินให้พรรคการเมือง ต้องไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อพรรคต่อปี ทั้งนี้เพื่อป้องกันพรรคการเมืองถูกครอบงำจากนายทุนหรือกลุ่มนายทุน กระจายอำนาจให้สมาชิกมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อพรรคมากขึ้น ตลอดจนช่วยสร้างศรัทธาให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นต่อระบบพรรคการเมืองมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ หัวใจสำคัญคือการสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบประชาธิปไตย ด้วยการปลูกฝังให้ประชาชนในทุกพื้นที่ ตั้งแต่ระกับหมู่บ้าน ตำบล เป็นพลเมืองดีวิถีประชาธิปไตยที่มีจิตสำนึก 3 ด้านหลัก ประกอบด้วย การคิด วิเคราะห์ด้วยเหตุและผล มีจิตสาธารณะทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม จิตสำนึกเกี่ยวกับการเคารพกฎหมาย/สิทธิผู้อื่น และมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างเข้มแข็ง ซึ่ง กกต.ได้ตั้งศูนย์ส่งเสริมประชาธิปไตยตำบลขึ้น ทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชนและส่งเสริมการปฏิบัติได้จริง
ขั้นตอนปฏิบัติการเลือกตั้ง กำหนดให้มีวันเลือกตั้งวันเดียวทั้วราชอาณาจักร ตั้งแต่เวลา 8.00 น. -17.00 น.และมีบัตรเลือกตั้งใบเดียว เพื่อกระตุ้นให้พรรคการเมืองส่งผู้สมัคร ส.ส.ที่มีคุณภาพ มุ่งทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง มิเช่นนั้นพรรคจะไม่ได้รับคะแนนเสียงในพื้นที่นั้นๆ
ทั้งนี้ พรรคการเมือง สามารถหาเสียงผ่านทางโซเชียลมีเดียได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไข ที่ กกต.กำหนด อีกที้งต้องไม่เป็นในลักษณะใส่ร้ายผู้อื่น ขณะเดียวกันการติดป้ายหาเสียง กกต.กำลังพิจารณาหาวิธีที่เหมาะสม เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ผู้สมัคร ส.ส.แม้จะอยู่ในพรรคเดียวกัน แต่ในแต่ละเขตเลือกตั้ง ผู้สมัครจะได้รับหมายเลขต่างกัน ดังนั้นการติดป้ายหาเสียง จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ป้องกันความสับสน
เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า การป้องกันการทุจริตเลือกตั้ง ต้องอาศัยประชาชนสอดส่องดูแล หากพบการทุจริต สามารถแจ้งเบาะแสได้ โดยมีรางวัลมอบให้และมีการคุ้มครองพยาน