พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คาดว่าการหารือกับพรรคการเมืองเพื่อปลดล็อคจะมีขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน หรือต้นเดือนธันวาคมนี้ โดยได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีและฝ่ายกฏหมายของรัฐบาล รวบรวมข้อมูลและหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไว้อยู่แล้ว ซึ่งในระหว่างนี้ ตนเองก็รับฟัง และติดตามความเห็นของพรรคการเมืองมาโดยตลอด และอยากให้แต่ละพรรคมีการนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเลือกตั้งด้วย
"เรื่องการเชิญพรรคการเมือง เพื่อปลดล็อคเดือนพฤศจิกายนก็เตรียมการอยู่แล้ว ว่าจะพ.ย.หรือต้นธ.ค. จะดูอีกทีในช่วงเวลาที่เหมาะสม ในช่วงนี้ก็รับฟังความเห็นจากทุกพรรคอยู่แล้ว ทั้งเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ ในสื่อโซเชียลก็พูดกันเยอะอยู่แล้ว...ก็ต่างคนต่างฟัง ผมจะรับฟังให้มากที่สุด"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พร้อมปฏิเสธที่จะให้ความชัดเจนถึงห้วงเวลาที่จะเปิดตัวเข้าสู่การเมืองเต็มตัว หลังพรรคเพื่อไทยเริ่มเปิดตัวรายชื่อผู้ที่พรรคจะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี โดยย้ำว่าในขณะนี้ยังไม่มีความเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะเปิดเผยในรายละเอียดอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำถามส่วนใหญ่ของสื่อมวลชนจะถามแต่เรื่องการเมือง ซึ่งตนเองไม่ขอตอบ เพราะไม่เกิดประโยชน์กับตนเองหรือกับใครทั้งสิ้น
"ในส่วนของผมยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เมื่อถึงเวลาเมื่อผมจะไปเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองก็ว่ากันอีกที อย่าให้ความสำคัญกับตรงนี้มากนัก"พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาล ทั้งในเชิงบวก และเชิงลบ และเห็นว่าเสียงสะท้อนเชิงลบ เกิดจากการขยายความของสื่อมวลชน แต่ยืนยันว่า จะไม่ส่งผลต่อการพิจารณาปลดล็อคพรรคการเมือง ซึ่งตนเองให้ความสำคัญในเรื่องความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองเป็นหลัก
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่ได้ให้ความสนใจ หรือให้ความสำคัญกับการเผยแพร่เพลงแร็พ "ประเทศกูมี"เพื่อไม่ให้ถูกกล่าวหาว่าไปปิดกั้น สิ่งสำคัญขอให้ใช้วิจารณญาณในการเผยแพร่ และคำนึงถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะหากเป็นการกล่าวให้ร้ายประเทศก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม
สำหรับการเสียชีวิตของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มคิงเพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิติ้ ที่ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตก บริเวณนอกสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในนามรัฐบาลได้แสดงความเสียใจผ่านคนใกล้ชิดของครอบครัวนายวิชัยไปแล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมในการตั้งใจจริงในการพัฒนาด้านกีฬา ซึ่งการที่นายวิชัยได้เข้าไปเทคโอเวอร์สโมสรเลสเตอร์ ซิติ้ และพัฒนาสโมสร จนนำไปสู่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จภายในเวลาไม่กี่ปี ถือเป็นคนไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงในวงการกีฬาและได้รับการยอมรับในเวทีต่างประเทศด้วย