นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองประธานมูลนิธิปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากต่ออนาคตของประเทศ ความสงบเรียบร้อยของสังคม คุณภาพชีวิตและการกินดีอยู่ดีหรือเศรษฐกิจของประชาชน พวกเราประชาชนชาวไทยจึงต้องร่วมกับองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมาย เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม เป็นกลไกที่ให้ทุกฝ่ายยอมรับและสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาได้โดยไม่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหม่ อุปสรรคและความยากลำบากของประเทศและประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ก็คือ เรากำลังมีการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญที่ได้สร้างระบอบกึ่งเผด็จการกึ่งประชาธิปไตยขึ้นมาหลังการเลือกตั้ง และ ภายใต้บรรยากาศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยมีการจำกัดสิทธิเสรีภาพทางการเมืองมีการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่บิดเบี้ยวและไม่มีที่ใดในโลกซึ่งจะทำให้เสถียรภาพของระบบการเมืองไทยมีปัญหาในอนาคต
อย่างไรก็ตามการมีการเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมดีกว่าการอยู่ภายใต้ระบอบรัฐประหาร ประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยจึงต้องช่วยกันทำให้ "การเลือกตั้ง"ได้รับการยอมรับให้เป็นกติกากลางของการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ตราบใดที่การเมืองไทยยังไม่สามารถสร้างเงื่อนไขทุกฝ่ายยอมรับกติกาการเลือกตั้ง รัฐประหารจะเกิดอีกเมื่อไรก็ได้แต่ถ้าการเลือกตั้งกลายเป็นกติกาหลักไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือฝ่ายใดขึ้นสู่อำนาจไม่ว่าจะมีความเชื่อหรืออุดมการณ์หรือผลประโยชน์แตกต่างหลากหลายกัน
อย่างไรก็ตาม แต่ทุกคนอยู่บนกติกาอันเดียวกัน คือ ยอมรับผลการเลือกตั้งโดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรมความเสี่ยงในการเกิดรัฐประหารในอนาคตจะลดลงมาก และสังคมไทยจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงได้เมื่อประเทศมีประชาธิปไตยที่มั่นคงย่อมเป็นพื้นฐานของความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นทางออกของประเทศ จึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้ หนึ่ง ขอเรียกร้องยกเลิกข้อจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองเพื่อให้เกิดบรรยากาศประชาธิปไตยก่อนการเลือกตั้ง และหยุดการดำเนินคดีกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและการเลือกตั้งปลดล็อคทางการเมืองให้พรรคการเมืองต่างๆได้ชี้แจงนโยบายและรณรงค์การเลือกตั้งอย่างเต็มที่เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สะท้อนปัญหาและความคิดเห็นเพื่อพรรคการเมืองสามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาโดยกลไกการบริหารประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยในอนาคต
สอง การเปิดกว้างให้องค์กรต่างๆร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งควรให้องค์กรสหประชาชาติหรือ UN ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อผลการเลือกตั้งและจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศการแสดงเจตจำนงของสหภาพยุโรปหรืออียูในการส่งคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งมาไทยเป็นเรื่องที่น่ายินดีและแสดงให้เห็นว่าอียูให้ความสำคัญต่อความเป็นประชาธิปไตยในไทยและการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านจากระบอบรัฐประหารไปสู่ระบอบกึ่งประชาธิปไตย กกต และ รัฐบาล คสช ควรเปิดกว้างและต้อนรับคณะสังเกตการณ์เลือกตั้งจากอียูเพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อกระบวนการเลือกตั้งในไทย
สาม คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ "กกต" ควรขอให้คณะรักษาความสงบเรียบร้องแห่งชาติ หรือ "คสช"ยกเลิกรายการเดินหน้าประเทศไทย (ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ) เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆได้ใช้เวทีดังกล่าวในการชี้แจงนโยบายและสื่อสารกับประชาชนเพื่อให้การเลือกตั้งมีความหมายและสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้อ ย่างเต็มที่
สี่ รัฐบาล คสช กกต และองค์กรอิสระทั้งหลายที่ได้รับการแต่งตั้งโดย คสช.ต้องยึดถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อประกันสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของปัจเจกชนทั่วทุกแห่งทั่วโลกไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบไหน โดยสิทธิมนุษยชนต้องครอบคลุมสิทธิพื้นฐาน 5 ประเภท คือ สิทธิพลเมือง (Civil Right) สิทธิทางการเมือง (Political Right) สิทธิทางสังคม (Social Right) สิทธิทางเศรษฐกิจ (Economic Right) สิทธิทางวัฒนธรรมและศาสนา (Cultural Right) มนุษย์ทั้งหลายรวมทั้งชาวไทยทุกคนนั้นเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในเกียรติศักดิ์และสิทธิ ต่างมีเหตุผลและมโนธรรมและควรปฏิบัติต่อกันด้วยเจตนารมณ์แห่งภราดรภาพทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพบรรดาที่กำหนดไว้ในปฏิญญานี้ โดยปราศจากความแตกต่างไม่ว่าชนิดใด ๆ ดังเช่น เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนา การคิดเห็นทางการเมืองหรือทางอื่น เผ่าพันธุ์แห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สิน กำเนิด หรือสถานะอื่น ๆ
ห้า ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ได้วางกติกาและกลไกจำนวนมากเอาไว้เพื่อควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพที่ถูกลดทอนอย่างมีนัยสำคัญพลังการเมืองประชาธิปไตยต่างๆถูกกดปราบภายใต้คำสั่ง คสช.ทุกคนอันหมายถึงคนไทยทุกคนมีสิทธิในการดำรงชีวิต เสรีภาพและความมั่นคงแห่งตัวตน บุคคลใด ๆ จะถูกทรมาน หรือได้รับผลปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายผิดมนุษยธรรมหรือต่ำช้าไม่ได้ทุกคนย่อมเสมอกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองของกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใด ๆ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันจากการเลือกปฏิบัติใดๆอันเป็นการล่วงละเมิดปฏิญญา และจากการยุยงให้เลือกปฏิบัติดังกล่าวบุคคลใดจะถูกจับกุม กักขัง หรือเนรเทศไปต่างถิ่นโดยพละการไม่ได้ทุกคนมีสิทธิโดยเสมอภาคเต็มที่ในอันที่จะได้รับการพิจารณาที่เป็นธรรมและเปิดเผยจากศาลที่อิสระและเที่ยงธรรมในการกำหนดสิทธิและหน้าที่ของตนและการกระทำผิดอาชญาใด ๆ ที่ตนถูกกล่าวหา
หก ทุกคนมีสิทธิที่จะมีส่วนในรัฐบาลของประเทศตน จะเป็นโดยตรงหรือโดยการผ่านทางผู้แทนซึ่งได้เลือกตั้งโดยอิสระ เจตจำนงของประชาชนจะต้องเป็นมูลฐานแห่งอำนาจของรัฐบาล เจตจำนงนี้จะต้องแสดงออกทางการเลือกตั้งตามกำหนดเวลาและอย่างแท้จริง ซึ่งอาศัยการออกเสียงกันอย่างทั่วไปและเสมอภาคและการลงคะแนนลับ หรือวิธีการลงคะแนนโดยอิสระ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การเลือกตั้ง ความเป็นธรรม ภราดรภาพ สันติภาพ การปฏิรูปประเทศ การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ความรุ่งเรืองก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชน ปัจจัยทั้งหมดนี้จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ต้องพัฒนาร่วมกันไปโดยไม่อาจขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เจ็ด "ประชาธิปไตย"มีลักษณะเป็นองค์รวมไม่แยกส่วนประชาธิปไตยสมบูรณ์จึงประกอบไปด้วยประชาธิปไตยทางการเมืองการปกครอง ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และประชาธิปไตยทางวัฒนธรรม การพัฒนาให้เกิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ตามแนวคิดต้องพัฒนาประชาธิปไตยแบบบูรณาการจะพัฒนาเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้เช่นเดียวกับการจะปฏิรูป ประเทศของเราจะมีสิทธิเสรีภาพ มีสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย อำนาจของประชาชนในการกำหนดรัฐบาลและการเลือกตั้งจะต้องกลับคืน มาตามกำหนดเวลาซึ่งถูกเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว หลังการเลือกตั้งแล้ว สังคมไทยต้องผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อเปลี่ยนผ่านให้เป็นประชาธิปไตยที่ดีขึ้นกว่าเดิม (Transition to betterDemocracy) ไม่ใช่เปลี่ยนผ่านสู่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย (Transition to Non-Democracy)
แปด ต้องทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเครื่องมือในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของระบอบอำนาจนิยมและเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย