ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ 4812/2553 ที่ให้นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กรุงเทพมหานคร (กทม.) กรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิงฯ ในราคาที่สูงเกินจริง
เนื่องจากเห็นว่าการออกคำสั่งพิพาทดังกล่าวเป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายวัฒนาไม่ได้กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอันเป็นเหตุให้ กทม.ได้รับความเสียหาย ตามนัยมาตรา 10 วรรคหนึ่ง ประกอบกับมาตรา 8 วรรคหนึ่งแห่ง พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
"การที่ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งกรุงเทพมหานครที่ 4812/2553 เรื่องให้ผู้ฟ้องคดีชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่กรุงเทพมหานคร ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีคำสั่งดังกล่าวนั้น ศาลปกครองสูงสุดเห็นพ้องด้วย พิพากษายืน" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ
คดีนี้นายวัฒนาได้ยื่นฟ้อง กทม.กับพวกรวม 2 คน เพื่อขอให้เพิกถอนคำสั่งที่เรียกให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วยเหตุความรับผิดทางละเมิด เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ กระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อรถดับเพลิงและเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัย ซึ่ง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดทางอาญาว่ามีพฤติการณ์ร่วมกับบริษัท STEYR-DAIMLER-PUNCH Spezialfahizeug AG & CO KG ออสเตรีย จำกัด กระทำความผิดโดยกำหนดราคาให้สูงเกินจริง ซึ่งนายวัฒนาได้อุทธรณ์คำสั่งเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.53 แต่ยังไม่ได้รับแจ้งผลการพิจารณาเป็นเหตุให้ผู้ฟ้องคดีเสียหาย
ต่อมา ศาลปกครองชั้นต้น (ศาลปกครองกลาง) มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งดังกล่าว โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากพิเคราะห์แล้วเห็นว่า พยานหลักฐานสำหรับข้อหาร่วมกันจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อ กทม.โดยผิดกฎหมาย ทำให้ กทม.ซื้อรถดับเพลิง และเรือดับเพลิง พร้อมอุปกรณ์บรรเทาสาธารณภัยแพงกว่าปกติ ไม่อาจรับฟังได้ว่า นายวัฒนากระทำการโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงจริง ประกอบกับเมื่อพิเคราะห์คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่พิพากษายกฟ้องนายวัฒนาด้วยเหตุผลทำนองเดียวกับที่ศาลปกครองได้วินิจฉัยมาโดยลำดับ นายวัฒนาจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนตามคำสั่งดังกล่าว