นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึงยุทธศาสตร์ทางการเมืองของพรรคว่า พรรคทษช.จะพยายามหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจ การแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มีการริดรอนเสรีภาพของประชาชน และหากพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศชาติได้ เพราะ ทษช.มีคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการพัฒนาประเทศ
คนของ ทษช.สืบเชื้อสายมาจากพรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ที่มีประสบการณ์ในการบริหารประเทศแล้วมารวมกันที่นี่เมื่อรวมกับคนรุ่นใหม่จะสามารถบริหารประเทศให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงระดับสูง
"ถ้าเป็นเรือลำใหญ่มากอาจติดปัญหา ขอเป็นเรือลำหน้า ที่จะนำพาประเทศไปสู่ประชาธิปไตย ทั้งหมดนี้ต้องยับยั้งการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ นี่คือภารกิจของ ทษช." นายจาตุรนต์ กล่าว
ทั้งนี้ พรรคไทยรักษาชาติเกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เปิดโอกาสให้มีพรรคเกิดเมืองเกิดใหม่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งสงครามทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ซึ่งหากประเทศไทยไม่เตรียมตัวจะได้รับผลกระทบมากมาย ที่ผ่านมาหลังการรัฐประหารประเทศจมอยู่ในความว่างเปล่า ต่างชาติไม่ยอมรับ ประชาชนไม่มีรายได้ เรียกว่าเกิดความเสียหายทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ
เมื่อจะมีการเลือกตั้งแล้วก็มีความพยามยามที่จะสืบทอดอำนาจ มีการบริหารที่ผิดพลาดจนเกิดปัญหารวยกระจุกจนกระจาย การใช้อำนาจแทรกแซง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งถ้าหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจไม่ได้ประเทศจะยิ่งเสียหายต่อไป
นายจาตุรนต์ กล่าวถึง การแบ่งเลือกตั้งของ กกต.ครั้งนี้ถือว่าอัปยศ เพื่อผลประโยชน์ของบางพรรคการเมือง โดยไม่คำนึงถึงประชาชน เพราะมีบางพรรคออกมาประกาศว่าจะได้รับเลือกตั้งถึง 150 เขต จากทั้งหมด 350 เขต โดยบางอำเภอแบ่งออกเป็นถึง 4 เขตเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการปักธงให้เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่เป็นธรรม
"เราต้องติดตามดูความคืบหน้าการปลดล็อคว่า การใช้สื่อโซเชียล การปราศรัยหาเสียงจะมีเงื่อนไขอย่างไร มีข้อจำกัดอย่างไร โดยพรรคการเมืองที่มีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนจะเป็นพันธมิตรกับ ทษช.โดยธรรมชาติ"
สำหรับการจัดทำนโยบายนั้นก็จะต่อยอดจากนโยบายเดิมในสมัยพรรคไทยรักไทย เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค โดยจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้
ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค ทษช. กล่าวว่า พรรคยึดถือความเป็นประชาธิปไตยเป็นสำคัญ ถึงแม้ระบอบประชาธิปไตยจะไม่ใช่ระบอบที่ดี แต่เป็นระบอบที่เลวร้ายน้อยที่สุด เพราะยึดโยงกับประชาชน ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมามีการออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยอ้างเรื่องความมั่นคง แต่เป็นความมั่นคงของระบอบเผด็จการ ทำให้เกิดปัญหาปากท้องจนลุกลามไปยังปัญหาอื่นๆ การยอมรับของนานาชาติไม่สามารถเกิดขึ้นภายใต้การปกครองในระบอบเผด็จการ
"ความไม่น่าเชื่อถือเหล่านี้ทำให้การค้าการลงทุนไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ไทยรักษาชาติจึงอยากจะเรียกร้องให้ประชาธิปไตยกลับมา เพราะมีความพยามที่จะสืบทอดอำนาจตามบันไดสี่ขั้น จึงอยากจะเรียกร้องให้ประชาชนออกมาช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรี" ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
หัวหน้าพรรค ทษช. กล่าวว่า หากพิจารณาให้ดีก็จะรู้ว่าพรรคการเมืองใดเป็นประชาธิปไตย พรรคการเมืองใดหนุนเผด็จการ
สำหรับการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้น ตนเองจะออกประกาศภายใน 1-2 วันนี้ โดยจะมีทั้งการเสนอตัวเองหรือมีผู้เสนอนำเสนอ หลังจากนั้นจะส่งรายชื่อกลับไปยังพื้นที่เพื่อให้รับฟังคะแนนนิยม ก่อนที่จะสรุปรายชื่อผู้สมัครที่ชัดเจนในแต่ละพื้นที่ พร้อมกันนี้พรรคจะได้ดำเนินการตั้งคณะทำงานด้านต่างๆ เพื่อมาดูแลศูนย์อำนวยการเลือกตั้ง