นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ( กกต.) ว่า มีหลายจังหวัดที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยเฉพาะที่จังหวัดสุโขทัยที่จะเห็นเป็นรูปธรรมมากสุด เพราะเป็นเขตเลือกตั้งเท่าเดิมที่มีการใช้มาแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของกฎหมาย แต่มีข่าวว่ามีคนพยายามเปลี่ยนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่
"ตอนที่ กกต.จังหวัดเสนอมาก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่มีคำสั่ง คสช.ออกมาก็มีการแบ่งเขตออกมาตามที่มีการพูดวงในกันมามาตลอด ใครดูแผนที่การแบ่งเขตใหม่ก็จะเห็นชัดเจนว่าไม่มีเหตุผลที่จะแบ่งเขตเลือกตั้งแบบนี้ ตรงนี้จะเป็นตัวบั่นทอนความน่าเชื่อถือว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ และทำให้การวิพากษ์วิจารณ์ว่าพยายามแทรกแซง เอารัดเอาเปรียบทางการเมืองมีอย่างต่อเนื่อง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า อดีต ส.ส.ของพรรคทั้งที่จังหวัดสุโขทัยและกาญจนบุรีพร้อมจะสู้ แม้จะเสียเปรียบมาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการตอกย้ำว่าการเมืองไม่พัฒนา ไม่พยายามยกระดับการเมือง ยังอยู่ในกรอบความคิดเดิมๆ ที่อาศัยอำนาจมาทำให้เกิดความได้เปรียบ ขาดธรรมาภิบาล
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีข้อสงสัยว่าการเลือกตั้งต้องการให้มีความสุจริตเที่ยงธรรม โดยอาศัยความเป็นกลางและความเป็นอิสระของ กกต.จะทำได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งคงต้องบอกให้สังคมรับรู้ และหวังว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะทบทวนท่าทีของตัวเองหรือจะทำอย่างนี้ต่อไป ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะรังเกียจคนที่มีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบแบบนี้
"ใครที่ไม่ทำตามหน้าที่ ในที่สุดก็ต้องรับผิดชอบ แต่ในยุคนี้มีมาตรา 44 คุ้มครองอยู่ อาจจะคิดว่าไม่เป็นไรก็ได้ ไม่ทราบ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากไม่พอใจเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งสามารถไปร้องศาลปกครองได้นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ฝากถามไปยังนายวิษณุว่าทำไมจึงคิดว่าไปศาลปกครองได้ ถ้าชี้แจงว่าเป็นคนเขียนคำสั่ง คสช.เอง และคำสั่งนั้นไม่ได้หมายความว่าศาลปกครองจะปฏิเสธ พรรคก็จะพิจารณาเรื่องการฟ้องศาลปกครอง
"เท่าที่ดูเหมือนช่องทางที่จะไปมันไม่มี แต่ถ้ารองฯ วิษณุยืนยัน ช่วยถามท่านให้หน่อยว่ายินดีจะไปเป็นพยานให้หรือไม่ ถ้าเป็นพยานให้แล้วศาลไม่รับคำร้องเพราะคำสั่ง คสช.ที่ท่านวิษณุมีส่วนเขียนไว้ ท่านจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ท่านทำและพูดอย่างไร" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เห็นว่าการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างนี้ขัดต่อกฎหมายชัดเจน แต่พอมีคำสั่งตามมาตรา 44 ออกมาคุ้มครองก็ต้องมาดูช่องทางอีกที และอยากให้ กกต.ออกมาชี้แจง ไม่เช่นนั้นจะขาดความน่าเชื่อถือ พรรคไม่อยากเสียเวลากับเรื่องเหล่านี้แล้ว เพราะอยากให้ประชาชนสนใจทิศทางประเทศมากกว่า แต่ถ้าทำการเมืองแบบนี้เราไม่ได้พัฒนา ไม่ได้เดินหน้า ใครที่ทำเรื่องแบบนี้ไม่มีสิทธิพูดเรื่องธรรมาภิบาลหรือประชาธิปไตยทั้งสิ้น
หัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณี 4 รัฐมนตรีที่เป็นผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐจะลาออกจากตำแหน่งนั้น คงตั้งเป้าเรื่องให้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.บังคับใช้ หรือมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง โดยคาดกันว่าอาจจะลาออกประมาณกลางธันวาคม ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศว่าพร้อมอยุ่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคการเมืองนั้น ไม่น่าแปลกใจ โดยพรรคพร้อมที่จะแข่งขันทางการเมือง เพราะประเด็นอยู่ที่มีส่วนได้เสียกับการเลือกตั้งหรือไม่ เนื่องจากใช้อำนาจรัฐอย่างเต็มที่ โดยเพิ่งใช้กับเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้ง จึงต้องมีคำถามว่าจะทำอย่างไรที่ไม่เอารัดเอาเปรียบทางการเมือง เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล