นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ให้สัมภาษณ์ที่จังหวัดน่าน เรื่องข้อเสนอไม่ให้ใส่โลโก้พรรคในบัตรลงคะแนนเลือกตั้งว่า การไม่ยอมให้ใส่โลโก้พรรคและชื่อพรรคลงไปในบัตรเลือกตั้งคู่กับหมายเลขและชื่อผู้สมัครก็เสมือนจงใจปกปิดข้อมูลที่ผู้ไปลงคะแนนควรรู้ก่อนลงคะแนนและเสมือนจงใจปิดตาผู้เข้าคูหาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ไม่ต้องการให้รู้ว่าผู้สมัครหมายเลขนั้นสังกัดพรรคการเมืองไหน เหมือนกลัวว่าพรรคการเมืองนั้นจะได้คะแนน เพราะคนจำนวนมากจำชื่อพรรคการเมืองและจำโลโก้ของแต่ละพรรคการเมืองได้มากกว่าหมายเลขชั่วคราวของผู้สมัครที่สร้างความสับสนในแต่ละเขตเลือกตั้ง เพราะแม้เป็นผู้สมัครพรรคเดียวกันแต่อาจได้หมายเลขต่างกันใน350 เขตทั่วประเทศ
ทั้งนี้ หากมองลึกลงไปทำให้เห็นเจตนาก็คือการทำลายความสำคัญของพรรคการเมือง ทั้งที่รัฐธรรมนูญให้การรับรองพรรคการเมืองว่าเป็นกลไกสำคัญในระบอบประชาธิปไตยและให้การรับรองทุกคะแนนว่าเป็นคะแนนของพรรคการเมืองที่จะต้องนำมาคำนวณจำนวน ส.ส. รวมของแต่ละพรรคที่ได้รับทั้งหมดในการเลือกตั้ง
"หากมองลึกลงไปอีกในทางการเมืองก็คือการมุ่งหวังตัดคะแนนของพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองบางพรรคที่ถืออำนาจรัฐแต่มุ่งขายคนมากกว่าขายพรรค ซึ่งเป็นวิธีการเอาเปรียบอีกวิธีหนึ่งในหลากหลายวิธีที่ทำมาแล้วโดยลำดับ ตั้งแต่กติกาที่ไม่เป็นธรรม การกำหนดให้ผู้สมัครพรรคเดียวกันทั่วประเทศได้หมายเลขต่างกันแทนที่จะเป็นหมายเลขเดียวกันเหมือนทุกครั้ง ด้วยเจตนาต้องการทำลายฐานคะแนนของพรรคการเมือง การเปลี่ยนบทบาทจากกรรมการมาเป็นผู้เล่นเสียเองไปจนถึงการหาเสียงฝ่ายเดียวมาโดยลำดับ"
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า หากปรากฏว่า กกต. ยอมตาม กกต.ก็จะหมดความน่าเชื่อถือในการดำรงความเป็นองค์กรอิสระ การเลือกตั้งที่จะหวังว่าต่อจากนี้จะหลงเหลือความยุติธรรมอยู่บ้างก็คงหวังยาก และอาจจะเป็นอีกครั้งหนึ่งที่นำไปสู่การเลือกตั้งสกปรกในอนาคต บัตรเลือกตั้งต้องประกอบด้วยชื่อผู้สมัครหมายเลข ชื่อพรรคการเมืองและโลโก้ของพรรคการเมืองจึงจะเป็นไปตามเจตนารมณ์ความสุจริต เที่ยงธรรมได้