นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ ย้ำชัดไม่จำเป็นต้องเชิญองค์กรต่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งในประเทศไทยที่จะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า เพราะถือเป็นศักดิ์ศรีของประเทศ และในฐานะที่ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียนในปี 2562 จึงต้องแสดงความเป็นผู้นำ ทั้งนี้ หากจะมีการเชิญก็จะเป็นเรื่องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ
โดยส่วนตัว ได้ให้ความเห็นในฐานะที่มีประสบการณ์ด้านการต่างประเทศ ซึ่งประเทศที่ให้ต่างประเทศเข้ามาร่วมสังเกตการณ์มีปัจจัยที่แตกต่างกัน โดยบางประเทศก็มีปัญหา และบางประเทศก็ไม่เคยมีประสบการณ์การเลือกตั้ง แต่ไทยนั้นถือว่ามีประสบการณ์เลือกตั้งมาพอสมควร รวมไปถึงการทำประชามติ พร้อมย้ำว่าปี 2562 ถือเป็นยุคใหม่ และเป็นปีมงคลฤกษ์ที่จะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้น
ส่วนกรณีที่หลายพรรคการเมืองระบุว่าหากรัฐบาลบริสุทธิ์ใจ และเชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะบริสุทธิ์ ยุติธรรม และโปร่งใส ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องปิดกั้นองค์กรต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งไทยนั้น นายดอน ยืนยันว่า ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้กำหนดให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งทั้งก่อนและหลัง จึงขอให้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ แต่หากยังไม่พอใจ ก็แนะนำให้ กกต.ใช้กลไกของสถานทูต โดยใช้นักการทูตเฝ้าสังเกตการณ์ และย้ำว่าการใช้คนต่างชาติที่อยู่ในไทยและคนไทยด้วยกันดูแลกันจะดีกว่า
"ผมไม่ได้กังวลอะไร แต่การให้คนไทยและต่างชาติดูแล มันเหนือกว่าคนไม่กี่คนที่จะเข้ามา และดีกว่าในแง่หลักการ ดีกว่าในแง่บริหารจัดการ และศักดิ์ศรีความเป็นไทย ประเทศไทย ไม่ควรยืมจมูกคนอื่นหายใจอยู่ตลอดเวลา เรามีภูมิปัญญา มีความรู้ มีประสบการณ์ ดังนั้นไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเอาคนอื่นเข้ามาทุกเรื่อง"นายดอน กล่าว
พร้อมย้ำว่า ไม่เคยห้ามต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์ เพราะเกรงว่าข่าวที่ออกมาจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด อีกทั้งได้เคยพูดเรื่องนี้ มา 5 ครั้งแล้ว