นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) แถลงผลการลงพื้นที่ของพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อรับฟังปัญหาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า พบปัญหาที่ชัดเจนในหลายจังหวัด คือปัญหาเรื่องเศรษฐกิจและปากท้อง ซึ่งเป็นปัญหาที่รุนแรงมาก การจัดทำนโยบายของพรรคไทยรักษาชาติ จึงจะนำเรื่องเศรษฐกิจมาเป็นเรื่องหลัก และจะทุ่มเทให้กับการทำนโยบายเศรษฐกิจเป็นอันดับแรก
การลงพื้นที่ในครั้งที่ผ่านมาของพรรคไทยรักษาชาติ เป็นการลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหา แต่หลังปีใหม่จะมีการพบปะกับประชาชนมากขึ้น และจะเน้นไปที่การปราศรัยเป็นหลัก และจะพูดถึงนโยบายที่ชัดเจนในเร็ว ๆ นี้ นอกจากเรื่องของเศรษฐกิจแล้ว จุดยืนนโยบายก็จะเน้นไปที่การหยุดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช.ด้วย
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติว่าพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไม่มีมูลความผิดชัดเจนจากการปกปิดบัญชีทรัพย์สิน ในกรณีนาฬิกาที่อ้างว่ายืมจากเพื่อนสนิทว่า เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก แต่ก็ไม่ผิดคาด ซึ่งเรื่องนี้สังคมก็ไม่ได้เชื่อตามเสียงของ ป.ป.ช. และไม่ได้ทำให้หายเคลือบแคลงสงสัยได้
ทั้งนี้ เพราะระบบการตรวจสอบของประเทศมีปัญหาอย่างร้ายแรง เป็นระบบที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะที่มาของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตั้งแต่ต้น แต่ก็ยังเป็นมาได้เพราะอาศัย พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ที่ผ่านการอนุมัติจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำให้ระบบการตรวจสอบทุจริตคอรัปชั่นของประเทศมีปัญหา เพราะ ป.ป.ช.ไม่มีความเป็นอิสระและถูกแทรกแซงได้ อีกทั้งยังขาดการตรวจสอบจากสื่อมวลชน และประชาชน เนื่องจากมีการจำกัดเสรีภาพสื่อและเสรีภาพของประชาชน
"ตราบใดที่ คสช. ยังมีอำนาจอยู่ เราจะไม่มีองค์กรอิสระที่น่าเชื่อถือไปอีกนาน ระบบการตรวจสอบของประเทศนี้ จะเป็นอย่างนี้อยู่หลายปี และผลประโยชน์ของประชาชนก็จะไม่ถูกปกป้อง" นายจาตุรนต์กล่าว