นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า พรรคฯ เตรียมความพร้อมที่จะเดินสายปราศรัยหาเสียงทั่วประเทศ แม้ยังไม่มีความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะกำหนดให้มีการเลือกตั้งเมื่อใด โดยจัดทีมงานปราศรัยออกเป็น 7 ชุด ซึ่งจะมีทั้งคนรุ่นใหญ่และคนรุ่นใหม่ ปูพรมปราศรัยในระดับต่างๆ ทั้งระดับเขต ระดับอำเภอ และระดับจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศวันละ 7 จุด
เบื้องต้นพรรคจะประเดิมเปิดเวทีปราศรัยครั้งแรกในวันที่ 13 ม.ค.นี้ที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดอุทัยธานี นอกเหนือจากทีมปราศรัยทั้ง 7 ชุดแล้ว แกนนำพรรคฯ จะเดินสายไปช่วยปราศรัยด้วยในแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
สำหรับการหาเสียงครั้งนี้ได้มีการจัดทำรถปราศรัยที่สามารถถ่ายทอดสัญญาณไปยังจุดอื่น และเชื่อมโยงรับสัญญาณจากจุดอื่นเข้ามา ตลอดจนมีรถขยายเสียงไปยังพื้นที่ใกล้เคียงอย่างทั่วถึงหากเป็นพื้นที่ที่จำกัดโดยพรรคจะเปิดตัวรถปราศรัยได้ในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ขณะเดียวกันจะมีการปรับปรุงห้องแถลงข่าวให้สามารถเชื่อมโยงกับทีมปราศรัยทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถถ่ายทอดสัญญาณและเปิดแถลงข่าวได้ทันที
"โปรแกรมที่วางไว้สำหรับการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ. หากมีการเปลี่ยนแปลงก็จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ยิ่งเลื่อนยิ่งลุย" นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกมาประกาศว่าจะไม่เสนอชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี ประชาชนคงรู้ดีว่านายสุเทพสนับสนุนใครเป็นนายกฯ และพรรคเกิดใหม่ที่มีอุดมการณ์เดียวกันก็คงประกาศท่าทีในทำนองเดียวกันเพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับรายชื่อว่าที่นายกรัฐมนตรีที่พรรคพลังประชารัฐจัดเตรียมไว้
"เมื่อมาถึงจุดนี้ประชาชนจะตัดสินใจได้ง่ายว่าจะเลือกพรรคใด จะเลือกใครเป็นนายกฯ ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติขอยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนใครที่หนุนอำนาจเผด็จการ" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ในส่วนของ พรรคฯ นั้นจะมีการประกาศรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีตามเวลาที่เหมาะสมตามไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนด โดยหวังว่า กกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัย และหากเลื่อนกำหนดไปจากเดิมก็ขอฟังเหตุผลจาก กกต.ก่อน
"ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติยังยืนยันที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์...แต่ทุกฝ่ายต้องรอ กกต.พิจารณาอย่างถ้วนถี่ ไม่ควรมีพรรคการเมืองใดก้าวล่วง ขอให้ กกต.ยึดหลักประชาธิปไตย อย่าเป็นไม้เลื้อยให้เผด็จการ หากดำเนินการได้อย่างเป็นอิสระ ไม่กระทบต่อฝ่ายใด จะช่วยให้บ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตย เพราะทุกวันนี้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อองค์กรอิสระ โดยเฉพาะเรื่องการตรวจสอบทุจริต วันที่ กกต.กำหนดให้มีการเลือกตั้งจะเป็นการปักหมุดที่จะยุติอำนาจเผด็จการ" นายณัฐวุฒิ กล่าว