พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จันทบุรี ประกอบด้วย เขต 1 น.ส.ปวีณา จริยฐิติพงศ์ อดีตรองนายก อบจ.จันทบุรี, เขต 2 นายชาติชาย วรพิพัฒน์ อดีตกำนัน และ เขต 3 นายชรัตน์ เนรัญชร เกษตรกรรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ปชป.ยังเปิดตัวว่าที่ 14 ผู้สมัครส.ส.ใน 6 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ สิงห์บุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง อุทัยธานี ชัยนาท
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ในอดีตพรรคเคยมีผู้แทนในจังหวัดจันทบุรีทั้งจังหวัด ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้สรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพเพื่อเข้ามาสานต่องานเดิม และริเริ่มงานใหม่ให้ทั้งจังหวัดจันทบุรี ภาคตะวันออก และระดับประเทศ หลังจากว่างเว้นการเป็นรัฐบาลมา 7 ปี
"พรรคหวังว่าพี่น้องในจังหวัดจันทบุรีจะให้โอกาสและสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครที่มีคุณภาพทั้ง 3 คนเข้ามาเติมเต็มเพื่อสานงานต่อและริเริ่มงานใหม่" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่ พื้นที่ภาคกลาง 6 จังหวัด เป็นจุดยุทธศาสตร์ตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจและการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เดิมเป็นที่นั่งของพรรคการเมืองอื่น โดยพื้นที่ดังกล่าวมีความหลากหลาย และพื้นที่เกษตรที่สำคัญ ซึ่งพรรคได้นำเสนอนโยบายประกันรายได้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำได้ชัดเจน และการสร้างรายได้จากการชูเมืองมรดกโลกเพื่อสร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว
"พรรคได้นำเสนอแก้ปัญหาราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำได้ชัดเจนด้วยการประกันรายได้ แม้ที่ผ่านมาจะไม่หวือหวาของนโยบายพรรคการเมืองอื่นแต่มีความยั่งยืน ไม่บิดเบือนกลไกตลาด ก่อให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น และกระทบต่อวินัยการเงินการคลัง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
หัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า เงื่อนไขการเลือกตั้งในปีนี้แตกต่างไปจากเดิม ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลข่าวสารจะช่วยให้ประชาชนรู้เท่าทัน และต้องการหาทางออกของประเทศ ไม่ต้องการให้มีรัฐบาลที่ทุจริตคอร์รัปชั่นจนนำไปสู่รัฐประหารอีกเหมือนในอดีต
ด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ปชป.กล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านมาพรรคมีคะแนนเสียงในพื้นที่ภาคกลาง 6 จังหวัดราว 3.5 แสนคะแนน ซึ่งคาดว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้คะแนนเพิ่มอีกราว 20% หรือราว 5 แสนคะแนน ซึ่งจะส่งผลให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อราว 7 คน นอกเหนือจาก ส.ส.เขตที่อาจได้ 1 ที่นั่ง โดยพรรคจะลงพื้นที่อย่างน้อย 3 ครั้ง และจัดปราศรัยใหญ่ ขณะที่คู่แข่งมีการตัดคะแนนกันเอง