นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งว่า ในวันนี้คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งมีข้อสรุปใน 2 เรื่อง คือ 1.การคัดสรรผู้ลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต ครบทั้ง 350 เขตแล้ว ซึ่งมีผู้ที่แจ้งความประสงค์เกินจำนวนทั้งแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ และ 2.การจัดทำนโยบายพรรคเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการเปิดตัวผู้สมัครและนโยบายทันทีหลังมีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.
"พรรคมีความพร้อมที่จะเข้าสู่การเลือกตั้ง และมั่นใจจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล แต่ปฏิเสธที่จะตั้งเป้าจำนวนสมาชิกที่จะได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้" นายอุตตม กล่าว
ส่วนกรณีเปิดตัวนโยบายหาเสียงช้ากว่าพรรคการเมืองอื่นนั้น นายอุตตม กล่าวว่า ไม่กังวลเพราะมั่นใจว่านโยบายของพรรคจะเป็นที่ชื่นชอบของประชาชน
"มั่นใจว่านโยบายเราโดนใจประชาชน ทุกนโยบายมาจากการรับฟังความเห็นของประชาชนก่อนที่จะตกผลึก ไม่ได้คิดเอาเอง และมีนโยบายใหม่ที่ยังไม่มีใครทำ" นายอุตตม กล่าว
สำหรับแนวคิดในการแปลงเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินนั้น เนื่องจากต้องการให้ประชาชนเกิดความมั่นคงในชีวิต รัฐบาลก็ต้องดูแลเรื่องที่ดินทำกิน แต่การดำเนินการต้องสอดคล้องกับความเป็นจริง
นายอุตตม กล่าวถึงการลาออกจากตำแหน่งว่า ขอยืนยันตามหลักการเดิมว่า 4 รัฐมนตรีจะลาออกพร้อมกันเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมเพื่อมาทำงานการเมืองเต็มตัว โดยขณะนี้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายและรับผิดชอบได้ดำเนินไปเสร็จสิ้นแล้ว
"เมื่อถึงเวลาก็จะนัดพร้อมกันไปยื่นใบลาออกต่อนายกรัฐมนตรี ท่านรับทราบในหลักการอยู่แล้ว ไม่ได้ทักท้วงอะไร" นายอุตตม กล่าว
ส่วนรายชื่อผู้ที่จะเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ยังมีเวลาในการพิจารณา ซึ่งต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการพรรค เมื่อถึงเวลาที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดไว้ก็ต้องยื่นแน่นอน
"วันนี้ยังไม่ได้คุยกัน ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของคณะกรรมการฯ ยังมีเวลา" นายอุตตม กล่าว
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพปชร. กล่าวว่า นโยบายพรรคมีหลากหลายมิติ ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการจัดสวัสดิการให้กับประชาชน ซึ่งมีทั้งการสานต่อนโยบายเดิมที่ดีอยู่แล้ว เช่น เรื่องบัตรสวัสดิการ และนโยบายใหม่
ด้านนายณัฐพล ทีปสุวรรณ รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวถึงการชี้แจงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการจัดงานระดมทุนเข้าพรรคว่า จะจัดส่งเอกสารชี้แจงต่อ กกต.ภายในวันนี้ ซึ่งเป็นที่มาของเงิน 90 ล้านบาท จาก 24 รายการ ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ 19 ธ.ค.61 ส่วนเงินบริจาคที่เหลืออีก 532 ล้านบาท ซึ่งได้มาหลังวันงานระดมทุนจะเข้าบัญชีเงินบริจาค และหลังจากนี้จะปิดประกาศรายละเอียดเรื่องนี้ไว้หน้าที่ทำการพรรค
"เราได้ตรวจสอบอย่างเข้มข้นตามระเบียบ กกต. โดยได้คืนเช็ค 1 รายเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ถูกกฎหมาย เพราะมีสัดส่วนคนไทยถือหุ้นต่ำกว่า 51%" นายณัฐพล กล่าว