ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า ถึงแม้ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งจากคณะกรรมการเลือก (กกต.) ก็ตาม แต่พรรคไทยรักษาชาติก็พร้อมที่จะลงสู่สนามเลือกตั้ง และไม่เห็นด้วยที่มีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปจากโรดแมพ สิ่งสำคัญคืออยากเห็นการเลือกตั้งที่นำความมั่นใจทั้งจากคนไทยและต่างชาติกลับคืนมา
โดยขอให้ กกต.ต้องเป็นกลางและโปร่งใส การออกระเบียบต่างๆ ต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันต่อทุกพรรคการเมืองและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
"ประกาศของ กกต.เกี่ยวกับผู้สังเกตการณ์เลือกตั้งของพรรคการเมืองที่ส่งไปประจำคูหานั้นถูกจำกัดบทบาท เสมือนเป็นผู้ร้ายที่ถูกจ้องจับผิด โดยไม่ได้มองว่าผู้สังเกตการณ์ของพรรคการเมืองเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย ดังนั้นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องควรทบทวนแก้ไขให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงและมาตรฐานที่ควรจะเป็น ส่วนงบประมาณที่ กกต.กำหนดให้พรรคการเมืองใช้หาเสียงนั้น ทางพรรคไม่มีปัญหา ขอแค่ความชัดเจน" ร.ท.ปรีชาพล กล่าว
สำหรับประเด็นที่ กกต.ส่งคนมาสอบถามนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล แกนนำพรรคถึงการเดินทางไปพบอดีตนายกรัฐมนตรีที่ต่างประเทศนั้น ไร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ไม่ส่งผลกระทบกับพรรค เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องไม่ควรเอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเป็นประเด็นการเมืองหรือใช้เป็นเหตุผลในการทำลายล้างพรรคการเมือง
นายปรีชาพล กล่าวถึงการลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์สินค้า OTOP ว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดแหล่งเงินทุน ตลอดจนช่องทางการจัดจำหน่าย ซึ่งพรรคไทยรักษาชาติมีแนวคิด "ต่อยอดโอทอปด้วยยุทธศาสตร์เชื่อมไทย เชื่อมโลก"ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ด้วยการ "รดน้ำที่ราก ไม่ใช่ที่ใบ" สู่การกระจายรายได้สู่คนตัวเล็กตัวน้อย ที่จะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมทั้งระดับกลางและระดับบนได้ โดยมีข้อเสนอ 4 ข้อคือ 1) ส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุนผ่านกองทุนหมู่บ้าน เพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้า ที่สอดรับกับความต้องการของตลาดโลกที่เปลี่ยนไปในปัจจุบัน
2) พัฒนาศูนย์ดีไซน์และจัดส่งสินค้าระดับอำเภอและตำบล หรือ Design & Logistic Center มุ่งช่วยเหลือผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ใช้การตลาดดิจิทัล พร้อมพัฒนาระบบการจัดส่งสินค้าในประเทศและตลาดโลก
3) เชื่อม OTOP สู่โลก ผ่านระบบ E commerce Application platform เป็นช่องทางสร้างราย โดยเชื่อมั่นว่าสามารถทำได้จริง
4) การสร้าง ASEAN E-Commerce Platform โดย Startup คนไทย ที่จะนำพา OTOP และ SME ของไทยเจาะตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน