นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยขณะนี้มีพรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 ดำเนินการตามข้อกำหนดครบทั้ง 4 ข้อแล้วสามารถส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้เพียง 2 พรรคเท่านั้น
โดยพรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550 จะต้องดำเนินการดังนี้
3.1 จัดให้มีเงินทุนประเดิมจำนวน 3 ล้านบาท และให้แจ้งนายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ
3.2 จัดให้มีสมาชิกซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 24 จำนวนไม่น้อยกว่า 500 คน ชำระค่าบำรุงพรรคการเมือง และให้พรรคการเมืองแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบ
3.3 จัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อบังคับ คำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายของพรรคการเมืองให้ถูกต้องตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 และให้สอดคล้องกับ พ.ร.ป.ส.ส.2561 พร้อมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 35 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง
3.4 จัดประชุมใหญ่เพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง เลขาธิการพรรคการเมือง เหรัญญิกพรรคการเมือง นายทะเบียนสมาชิก และกรรมการบริหารอื่นของพรรคการเมือง ตามข้อบังคับพรรคการเมืองที่ได้แก้ไขใหม่ตามข้อ 3.3 โดยให้ลงคะแนนลับตามมาตรา 40 พร้อมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบภายใน 35 วัน นับแต่วันที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง
โดยในระหว่างเวลาที่พรรคการเมืองยังปฏิบัติตามข้อ 3.3 ถึงข้อ 3.4 ไม่ครบถ้วน จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้
"ขอให้พรรคการเมืองตามข้อ 3 (พรรคการเมืองที่จัดตั้งหรือเป็นพรรคการเมืองตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2550) ที่ประสงค์ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการตามข้อ 1 ให้ครบถ้วนทั้ง 4 ข้อ และต้องแจ้งให้นายทะเบียนพรรคการเมืองทราบด้วย จึงจะมีสิทธิส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้" นายแสวง ระบุ