นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงผลสำรวจล่าสุดของ "นิด้าโพล" ที่พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 78.16% เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการซื้อขายเสียงแน่นอนว่า จากผลการสำรวจดังกล่าว เป็นภาระหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะต้องจัดการการเลือกตั้งให้เกิดความบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียงให้ได้ โดยจะต้องขจัดนักการเมืองที่ซื้อเสียงให้ออกไปจากวงจรการเมือง เพื่อเป็นการปฏิรูปการเมือง และป้องกันนักการเมืองที่ลงทุนมากใช้เงินเข้าสู่ตำแหน่ง เพราะที่สุดแล้วเมื่อได้ตำแหน่งก็ต้องมาถอนทุนคืน จนนำประเทศไปสู่วิกฤตอย่างที่ผ่านมา
"กกต. ยังต้องจับตาการใช้อำนาจพิเศษ เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะในการเลือกตั้งด้วย ในส่วนของประชาชน ก็ต้องช่วยกันสกัดกั้นนักการเมืองเหล่านี้ไม่ให้กลับเข้ามามีอำนาจได้เช่นกัน" รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
สำหรับพรรคประชาธิปัตย์นั้น เป็นพรรคการเมืองที่ยืนอยู่ด้วยอุดมการณ์ที่ยึดถือมาโดยตลอด ดังคำปราศรัยของ ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช อดีตหัวหน้าพรรคฯ ที่ได้ปราศรัยไว้เมื่อปี 2489 ความว่า "การปกครองบ้านเมืองมี 3 วิธี ด้วยอำนาจ ด้วยอามิส หรือด้วยอุดมคติ การเมืองที่มาด้วยอำนาจ ย่อมโค่นล้มไปด้วยอำนาจ อามิส วันหนึ่งหมดไม่มีจะให้ และให้สักเท่าใดก็ไม่พอสำหรับผู้รับ อุดมคติเท่านั้นที่จะยั่งยืนอยู่ได้ แม้ตัวผู้ปกครองจะล้มหายตายจากไป สัจจะตามอุดมคติจะยังอยู่"
นายจุฤทธิ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ใช้อำนาจหรือเงินเพื่อเข้าสู่การเมือง แต่จะใช้อุดมการณ์ที่ยึดถือสืบเนื่องยาวนานกว่า 72 ปี และวันนี้พรรคฯ ได้ออกนโยบายบนหลักคิด "แก้จน สร้างคน สร้างชาติ" เพื่ออาสาเข้ามาแก้ปัญหาประเทศในระยะยาว อาทิ การประกันรายได้ โฉนดสีฟ้า เกิดปั๊บรับสิทธิ์เงินแสน ทุกนโยบายล้วนได้รับการตอบรับที่ดี จึงอยากเชิญชวนประชาชนสนับสนุนพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ เพื่อร่วมนำพาประเทศให้พ้นจากวังวนการซื้อสิทธิ์ขายเสียงไปด้วยกัน