พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมลงสู่สนามเลือกตั้งในเดือนมี.ค.62 โดยมีแกนนำพรรค กรรมการบริหารพรรค รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงทิศทางและยุทธศาสตร์ของพรรคว่า จากการลงพื้นที่พบปะประชาชนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ได้รับฟังปัญหาของประชาชนที่ต่างสะท้อนออกมาเหมือนกัน คือ เศรษฐกิจไม่ดี และมีหนี้สินเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เห็นว่าประชาชนต้องทนกับความทุกข์มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา และในฐานะที่ตนทำงานการเมืองมา 28 ปี ไม่มีช่วงไหนที่จะรู้สึกว่าประชาชนขาดที่พึ่งมากขนาดนี้
"พวกเขารอคอยที่จะให้พวกเราไปช่วยเขาออกจากความทุกข์ ดังนั้นวันที่ 24 มีนาคมนี้ นอกจากจะเป็นวันสำคัญของพวกเราแล้ว ยังเป็นวันที่ประชาชนได้ก้าวออกจากทุกข์ครั้งนี้ ขอเรียนพี่น้องชาวเพื่อไทย ตลอดเวลาที่บอกประชาชนเศรษฐกิจไม่ดี ปีนี้เศรษฐกิจจะไม่ดียิ่งกว่าเดิม ดังนั้น เราต้องแข็งแรงไปสู้งานหนักให้ประชาชน" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้มีพรรคการเมืองใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่สุดท้ายก็คือ 2 ขั้ว ขั้วแรกคือ ขั้วที่ตั้งขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ ส่วนขั้วที่สอง คือ ขั้วที่ตั้งขึ้นเพื่อประชาธิปไตย วันนี้วันนี้เราไม่ได้อยู่สงครามโลกที่ใช้รถถังออกไปสู้กัน แต่เราอยู่สงครามการค้า จึงต้องออกไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ประชาชน ปีนี้เศรษฐกิจจะแย่มาก ธนาคารโลกยืนยันว่าเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ถ้าเราได้รัฐบาลที่ไม่เชี่ยวชาญเศรษฐกิจ คนไทยจะทุกข์มากขึ้น ดังนั้นอยู่ที่ประชาชนว่าจะเลือกรัฐบาลที่เชี่ยวชาญด้านการทหาร หรือรัฐบาลเชี่ยวชาญการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
"ซึ่งพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เคยทำสำเร็จมาทุกครั้ง ทุกครั้งเราทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ทุกครั้งประชาชนมีความสุข และกระเป๋าที่ตุงทุกครั้ง" คุณหญิงสุดารัตน์ระบุ
ประธานยุทธศาสตร์ฯ กล่าวว่า แม้วันนี้ประชาชนจะประสบกับปัญหาหนัก แต่เชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะใช้เวลาไม่นานในการเร่งแก้ปัญหา โดยเร่งสร้างรายได้ให้ประชาชนกลับมากระเป๋าตุง จะเพิ่มพลังให้คนไทย 5 ด้าน คือ 1.เพิ่มพลังเกษตรกรไทย ด้วยการขายราคาสินค้าเกษตรกรราคาดี 2.เพิ่มพลังเอสเอ็มอี ให้มีความพร้อมบุกตลาดโลกด้วยเทคโนโลยี 3.เพิ่มพลังการส่งออก ด้วยความเชี่ยวชาญเวทีโลก 4.เพิ่มพลังรายได้จากการท่องเที่ยว โดยดึงเงินทั่วโลกมากระจายรายได้ให้ทุกจังหวัด และ 5.เพิ่มพลังคนรุ่นใหม่ สร้างเถ้าแก่ใหม่ทั่วประเทศ
"5 พลังนี้ จะช่วยขับเคลื่อนกำลังซื้อประเทศ ตนเคยบอกแล้วว่าเศรษฐกิจไทยต้องเพิ่มกำลังซื้อ โดยเพิ่มให้กับคนตัวเล็กทุกคน และต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ประเทศไทย 4-5 ปีเกิดการถดถอย เราจะไม่ปล่อยให้ประเทศไทยล้าหลัง ล้มเหลว ถดถอย และสิ้นหวังต่อไป" คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
พร้อมระบุว่า จะพัฒนาให้อีก 3 ด้านมีความแข็งแกร่งควบคู่กันไปด้วย คือ 1.การพัฒนาบุคลากร 2.การพัฒนาสุขภาพดีถ้วนหน้า และ 3.การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบน้ำ ที่จะมีรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งมาทำในเรื่องนี้ คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทย
"ชัยชนะของพรรคเพื่อไทย จะเกิดขึ้นได้ด้วยขุนพลของเรา ที่ช่วยกันทำความเข้าใจกับประชาชน เพื่อเป็นที่พึ่ง เชื่อว่าทุกท่านจะทำให้เกิดความสำเร็จ นำชัยชนะมาสู่ประชาชน ขอให้อดีตส.ส.มีกำลังขวัญ กำลังใจ ส่วน ส.ส.ใหม่ขอให้ร่วมกันสู้ ชัยชนะจะไม่ไกลเกินเอื้อม วันที่ 24 มีนาคม คือวันแห่งชัยชนะของประชาชน หมดเวลาแล้วสำหรับรถถัง ได้เวลาแล้วของผู้บริหารมืออาชีพ" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
จากนั้น เป็นการเปิดตัวขุนพลเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ระบุว่า จะต้องดำเนินการใน 6 ยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ คือ 1.ไทยทำ โดยสร้างแบรนด์ไทยแลนด์ให้เข้มแข็ง 2.ไทยทันสมัย โดยลดขั้นตอนที่ติดขัดของระบบราชการ 3.ไทยเท่าเทียม ต้องกระจายอำนาจท้องถิ่นโดยเฉพาะการศึกษา สาธารณสุข เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดี 4.ไทยเชื่อมไทย พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมโยงทั่วประเทศ 5.ไทยเชื่อมโลก ต้องเชื่อมความสัมพันธ์ การเจรจาการค้ากับที่ประเทศหยุดชะงักไป และ 6.ไทยยั่งยืน มุ่งให้เกิดความโปร่งใสในระบบราชการบริหารประเทศ ยกระดับคุณภาพชีวิตรักษาสิ่งแวดล้อม จัดการมลพิษ
ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ขณะนี้การจัดทำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.เขตของพรรคเพื่อไทย ใกล้เสร็จสิ้นครบ 100% คาดว่าจะประชุมเพื่อเคาะรายชื่อทั้งหมดในวันที่ 31 ม.ค.นี้ จากนั้นวันที่ 1 ก.พ. พรรคจะมอบใบส่งตัวของพรรคให้แก่ว่าที่ผู้สมัครทุกคน เพื่อให้นำไปสมัคร ส.ส.ในวันที่ 4 ก.พ. ก่อนจะส่งรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 5 ก.พ.
โดยเบื้องต้น มีผู้เสนอตัวจะลง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อแล้ว 108 คน ขณะที่บัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อนั้น ขณะนี้มีความชัดเจนแล้ว 2 คน คือ 1.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย และ 2.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แกนนำพรรค ส่วนรายชื่อที่ 3 ยังไม่ชัดเจน แต่ยืนยันว่าพรรคจะส่งครบทั้ง 3 รายชื่ออย่างแน่นอน