พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์, พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าส่วนราชการ ได้เดินทางไปตรวจราชการที่ จ.สระบุรี พร้อมเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์พุแค ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์แห่งแรกของประเทศ และเป็นตัวอย่างโครงการป่าในเมือง สวนป่าประชารัฐเพื่อความสุขของคนไทย โดยได้พัฒนาพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวก รองรับการให้บริการประชาชนในการศึกษาเรียนรู้ พักผ่อนหย่อนใจ และออกกำลังกาย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบ ส.ป.ก. 4-01 ให้แก่เกษตรกรจำนวน 10 ราย และมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวมในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ในโครงการจัดที่ดินทำกินชุมชนให้แก่ราษฎร
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ตอนหนึ่งว่า รู้สึกดีใจที่ได้ลงพื้นที่ ได้รับการต้อนรับและได้กำลังใจจากประชาชนในพื้นที่ ทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่จนหมดหน้าที่รัฐบาล ซึ่งจะทำงานที่เหลืออยู่อย่างดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ ยังชี้แจงถึงปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กว่า เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แค่ประเทศไทย บางประเทศมีระดับค่าฝุ่นละอองที่สูง ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ในแต่ละวัน เช่น สภาพอากาศ และสภาพการจราจร ซึ่งได้สังเกตว่า ช่วงที่เฮลิคอปเตอร์จาก กทม.มาถึงสระบุรี พบว่ายังมีการเผาในพื้นที่เกษตร ดังนั้นจึงต้องฝากผู้นำท้องถิ่นช่วยชี้แจง และทำความเข้าใจกับเกษตรกรในการขอความร่วมมือลดการเผา เพื่อช่วยลดผลกระทบที่ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นละออง และได้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อช่วยลดปัญหาดังกล่าวด้วย
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จังหวัดสระบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านอุตสาหกรรม ด้านเกษตรกรรม และด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย เป็นจุดแข็งที่จังหวัดสระบุรีสามารถนำไปต่อยอดการพัฒนาท้องถิ่นให้ก้าวไกลได้มากขึ้น โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมที่มีความโดดเด่น เพราะจังหวัดสระบุรีมีทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นแหล่งพลังงานเพื่อภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ส่งเสริมการลงทุน ซึ่งเป็นพื้นที่สนับสนุนการรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในจังหวัดสระบุรีด้วย
ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสระบุรีนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ทางประวัติศาสตร์ ทางวัฒนธรรมประเพณี และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยสถานที่ที่มีชื่อเสียงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางมา ซึ่งต้องร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความน่าสนใจอยู่เสมอ ให้สะอาด ปลอดภัย และที่สำคัญ คือการสร้างเส้นทางคมนาคมให้เกิดความเชื่อมโยง เพื่อสะดวกต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวและประชาชน
ส่วนด้านเกษตรกรรม ขอให้เกษตรกรระมัดระวังเรื่องการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เพราะปัจจุบัน ความต้องการของตลาดมีน้อยกว่าผลผลิต ประกอบกับมีคู่แข่งมากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคหันไปเลือกซื้อสินค้าเกษตรในประเทศที่ราคาต่ำกว่าประเทศไทย
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งถือเป็นการร่วมกันทำความดี ถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยขอให้ทุกคนร่วมกันจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งเป็นพระราชพิธีที่สำคัญ ถือเป็นการสืบสานประเพณีประวัติศาสตร์ความเป็นไทย พร้อมไปกับการเรียนรู้ประวัติของชาติไทยที่มีมาหลายร้อยปี และให้สืบต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันจะลงติดตามงานในทุกพื้นที่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการเมือง และการพบปะพูดคุยกับประชาชน ซึ่งไม่ได้พูดในนามของใคร ไม่ใช่การหาเสียงให้ใคร และไม่เกี่ยวกับใคร แต่เป็นการพูดในนามของรัฐบาลทั้งหมด ดังนั้นจึงอย่าไปเชื่อหากใครนำไปกล่าวอ้าง และในการใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนั้น ขอให้ประชาชนเลือกให้ดี พร้อมย้ำว่า ทหารมีความจำเป็นในการทำหน้าที่ช่วยเหลือประเทศ แต่ให้แยกแยะคนที่ทำดี และไม่ดี