พรรคร่วมรัฐบาลมั่นใจโหวตเลือกนายกฯ ไม่มีเสียงแตกเหมือนประธานสภาฯ

          ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน (พปช.)ระบุว่า การโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้แม้ฝ่ายที่จะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลจะได้เสียงสนับสนุนไม่ครบเท่าที่ได้รวมเสียงกันไว้ถึง 315 เสียง แต่ก็ไม่อยากให้มองว่าเสียงแตก โดยมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงเลือกนายสมัคร สุนทรเวช ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแน่นอน
          ในวันนี้ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนน 307 เสียง จากจำนวนส.ส.ที่เข้าร่วมประชุม 476 คน
          "ที่แน่ๆ ท่านสมัครต้องเป็นายกฯ การโหวตจะให้ถูกใจหมดคงเป็นไปไม่ได้ ไม่อยากให้ซีเรียส ระบอบประชาธิปไตยมีมากไปก็ไม่ดี และอย่าไปมองว่าเสียงแตก" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
          ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวถึงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า โดยส่วนตัวยังไม่ทราบว่าจะได้นั่งตำแหน่งใด  เรื่องตำแหน่งคงต้องขึ้นกับทางด้านกรรมการบริหารพรรคด้วยว่า จะให้บุคคลใดนั่งตำแหน่งใด 
          ส่วนที่มีการคาดหมายว่าหากมารับตำแหน่ง รมว.ยุติธรรมหรือรมว.มหาดไทย จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะในขณะนี้กระบวนการด้านยุติธรรมได้แยกจากกระทรวงยุติธรรมและถือเป็นองค์กรอิสระ รัฐบาลไม่สามารถแทรกแซงได้ และภายหลัง พ.ต.ท.ทักษิณกลับมาก็ต้องดำเนินการไปตามข้อกล่าวหา 
          ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้ตั้งธงยุบคณะกรรมการตรวสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) แต่กลับอยากให้คตส.ทำงานให้มากขึ้น สัมภาษณ์ให้น้อยลง และแม้ว่าคตส.ไม่สามารถดำเนินการได้ต่อก็สามารถส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ดำเนินการต่อได้
          "ไปยกเลิกคตส.คงไม่ได้ สมมติ คตส. ตั้งใจพร้อมกันตายภายในคืนนี้ คดีก็ส่งไปยังปปช.ตรวจสอบต่อไปได้" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว 
          ขณะที่พล.อ. เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา กล่าวว่า มั่นใจว่า ในพรรคจะไม่มีเสียงแตกในการโหวต เลือกนายกรัฐมนตรี
          ด้านพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษา พรรคชาติไทย ยืนยันเช่นเดียวกันว่า ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นเป็นมติพรรค และมองว่านายสมัครเหมาะสมแล้วที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี